นราธิวาส-ปปง.ร่วม 3 ฝ่ายยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด รถยนต์และอาวุธปืน 18 กระบอก
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 7 เม.ย.65 ที่ฐานปฏิบัติการชุดเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.ปรัชญา ไบเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดของ น.ส.สุริยา สาฆอ ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอรกานต์ ม.1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการขยายผลในการจับกุมเครือข่ายเมื่อวันที่ 14 พ.ย.61 ที่ผ่านมา ซึ่งการตรวจค้นเป้าหมายในครั้งนี้ จำนวน 6 เป้าหมายในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.เมืองนราธิวาส เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 5 คน สามารถตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว โดยแยกเป็นอาวุธปืน 18 กระบอก รถยนต์ จำนวน 6 คัน รถ จยย.จำนวน 2 คัน เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้กล่าวคือ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.65 พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส ได้ร่วมกับ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง เลขาธิการ ปปง. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ ฉก.ตร.นราธิวาส 93 เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก นำหมายค้นของศาล จ.นราธิวาส กระจายกำลังกันตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด โดยแยกเป็นพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก 5 จุด และ อ.เมืองนราธิวาส 1 จุด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน
โดยเป้าหมายจุดที่ 1 เป็นบ้านพักของนายแซม แวดาโอะ เลขที่ 98/44 ม.1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องหาได้ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายแซม แวดาโอะ พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนพก ขนาด 11 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก 2.นายซัมรี ดอเลาะ พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนพกชนิดลูกโม่ ขนาด .357 จำนวน 2 กระบอก 3.นายประวิตร อาแว พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนพกลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก และ 4.นายอาทิตย์ แวดาโอะ อาวุธปืนพก ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อม รถ จยย.บิ๊กไบค์ ยี่ห้อ BMW จำนวน 2 คัน และต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนเพิ่มเติมภายในห้องนอนอีก 5 กระบอกประกอบด้วย 1.อาวุธปืนพก ขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 2.อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน และ 3. อาวุธปืนพก ขนาด 11 ม.ม.อีก 3 กระบอก ซึ่งนายแซมให้การยอมรับว่าปืนอีก 5 กระบอกนี้ตนเป็นผู้ครองครอง
เป้าหมายที่ 2 เป็นบ้านของ น.ส.สุริยา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ 1 พบอาวุธปืนพก ขนาด .45 และ 9 ม.ม.จำนวน 2 กระบอก โดย น.ส.สุริยา ให้การว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของนายอีฟร์ฟาน แวดาโอะ ซึ่งเป็นบุตรชายของตน พร้อมได้ทำการตรวจยึดรถยนต์เก๋งอีก 3 คัน เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า 2 คัน และรถยนต์เก๋งยี่ห้อ เอ็ม.จี.อีก 1 คัน
เป้าหมายที่ 3 เป็นบ้านของนายธวัชชัย แวดอเลาะ เลขที่ 98/35 ม.1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน 6 กระบอก ประกอบด้วย 1.อาวุธปืนยาว สไนเปอร์ ไรเฟิล 1 กระบอกพร้อมกระสุนปีน 2.อาวุธปืนพก ขนาด .45 จำนวน 2 กระบอก 3.อาวุธปืนพก ขนาด 9 ม.ม. 2 กระบอก และ 4. อาวุธปืนพก ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก โดยนายธวัชชัย ให้การว่า อาวุธปืนจำนวนดังกล่าวเป็นของนายแซม ซึ่งตนได้นำมาเก็บไว้ พร้อมตรวจยึดรถยนต์ตู้ ยี่ห้อฮุนได จำนวน 1 คัน
เป้าหมายที่ 4 เป็นบ้านของนายอานันท์ วรรณประภักดิ์ สามารถตรวจยึดกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง สิ่งเทียมอาวุธปืน BB Gun และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเป็นรายที่ 5 ไว้ดำเนินคดีในครั้งนี้ด้วย
เป้าหมายที่ 5 บ้านเลขที่ 43 ม.7 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ตรวจยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด เล่มทะเบียนรถยนต์และรถ จยย. รวม 5 เล่ม และกุญแจรถยนต์อีก 10 ดอก ส่วนเป้าหมายที่ 6 เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า การตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าว เป็นการขยายผลการติดตามจับกุมของเครือข่ายยาเสพติด เมื่อวันที่ 14 พ.ย.61 ที่ผ่านมา โดยไม่มีส่วนยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่แต่อย่างใด และอาวุธปืนของกลางส่วนใหญ่เป็นอาวุธปืนที่ใช้สำหรับการเก็บสะสม ที่เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้มีการเพิกถอนให้มีและใช้อาวุธปืนไปแล้ว
ขณะที่นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร อดีตนายอำเภอสุไหงโก-ลก ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผช.เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดเผยว่า หลังจากทราบว่า นายแซนมีพฤติกรรมที่ส่อเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้มีการทำหนังสือเพิกถอนใบ ป.4 ซึ่งให้มีและใช้อาวุธปืนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อป้องกันมิให้นำไปใช้ในทางที่ผิด และอาวุธปืนส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธปืนที่มีไว้ครอบครองเพื่อเก็บสะสม การออกใบ ป. 4 ตนจะระมัดระวังอนุญาตให้เฉพาะกลุ่มบุคคลที่พิจารณาแล้ว ใช้ป้องกันตัวหรือบุคคลที่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่กับส่วนราชการ ซึ่งหากพบว่ามีพฤติกรรมต้องสงสัย ตนจะเพิกถอนใบอนุญาตทันทีทุกรายไป
