นราธิวาส-จับอีก! แรงงานเมียนมา 27 คน ใช้ประเทศไทยเป็นจุดพักคอย ก่อนเดินทางไปหางานทำที่ประเทศเพื่อนบ้าน เผยเสียค่าใช้จ่ายต่อคนกว่า 4 หมื่นบาท
จากกรณีปฏิบัติการของหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวที่มีผู้นำพาเข้ามาเพื่อหวังเล็ดลอดผ่านประเทศไทยเข้าไปสู่ประเทศมาเลเซียได้เป็นกลุ่มก้อนในหลายครั้งที่ผ่านมา ล่าสุดชุดปฏิบัติการข่าวหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ได้รับการรายงานจากแหล่งข่าว ว่าพบบุคคลต้องสงสัยลักษณะคล้ายบุคคลสัญชาติเมียนมาจำนวน 4 คนเดินอยู่บริเวณสวนยาง บ้านเจาะกด หมู่ที่ 4 ตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส
ต่อมา พันเอก ภาคิน เกื้อกูล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 พร้อมด้วย ร้อยโท สุรวิทย์ ชาญอาวุธ ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายการข่าว หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 และผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4805 จึงได้ร่วมกับปลัดอาวุโสอำเภอสุไหงปาดี รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสุไหงปาดี สารวัตรกำนันและส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบบุคคลสัญชาติเมียนมา จำนวน 4 คนอยู่บริเวณขนำ และพรรคพวกชาวเมียนมาอีก 23 คน ที่หลบซ่อนตัวห่างไปประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสุไหงปาดี จัดทำบันทึกจับกุม ตรวจคัดกรองโควิด-19 และส่งต่อให้กับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขยายผล ตรวจสอบไทม์ไลน์ เพื่อเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ
ทั้งนี้จากการพูดคุยสอบถามเบื้องต้นทราบว่า แรงงานชาวเมียนมาทั้ง 27 คน เดินทางมาจากประเทศเมียนมา เพื่อจะไปหางานทำที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้ข้ามฝั่งมายังประเทศไทยด้วยการเดินเท้าข้ามป่าเขามาถึงในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 จากนั้นได้มีรถยนต์กระบะมารับ นั่งรวมกันประมาณ 4-5 ชั่วโมง จนมาถึงป่าไม่ทราบพื้นที่พัก 1 คืน และนั่งต่อประมาณ 7 ชั่วโมง จนมาหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าสวนยางดังกล่าว ก่อนถูกจับกุม ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ มีค่าใช้จ่ายคนละ 2,300,000 จัต (พม่า) หรือประมาณ 46,000 บาท (ไทย)
ทั้งนี้ขณะที่กำลังทำการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ได้นำอาหารและน้ำดื่มให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
