นราธิวาส-ผู้ว่านราฯ สั่งเร่งสำรวจความเสียหาย หลังกลุ่มโจรใต้เผาวอดร้านสะดวกซื้อ ใน 6 อำเภอ 10 จุด
จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายรวมตัวก่อนกระจายกำลังก่อเหตุป่วนเมื่อเวลาประมาณ 00.25 น.ของวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมๆกันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งวางระเบิดและวางเพลิงปั๊มน้ำมันและร้านสะดวกซื้อ สร้างความเสียหายต่อร้านสะดวกซื้อและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ที่สำคัญกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจชายแดนใต้
สำหรับช้อมูลล่าสุดในพื้นที่ จ.นราธิวาส คนร้ายก่อเหตุในพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย 1.อ.เจาะไอร้อง 2 จุด เกิดเพลิงไหม้ร้าน 7-11 และ ร้าน Big C mini ซึ่งตั้งอยู่ติดกันในพื้นที่ บ.เจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ได้รับความเสียหาย 2.อ.บาเจาะ 2 จุด เกิดเพลิงไหม้ร้าน 7-11 ภายในในปั้ม ปตท.บาเจาะ ริมถนนเพชรเกษม สาย 42 บ.สะแต ม.4 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ ได้รับความเสียหายทั้งหลัง และพนักงานขนส่งสินค้าได้รับบาดเจ็บ จํานวน 1 ราย เป็นแรงงานชาวเมียนมา รวมทั้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ 7-11 สาขาต้นไทร อ.บาเจาะอีก 1 จุด 3.อ.ศรีสาคร 2 จุด โดยจุดแรกเกิดเพลงไหม้ร้าน 7-11 ภายในปั้ม ปตท.ศรีสาคร เทศบาลตำบลศรีสาคร อ.ศรีสาคร ทำให้ ด.ช.อาบูคอรี่ กาเด อายุ 14 ปี ถูกเศษแก้วบริเวณขาทั้งสองข้าง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และ น.ส.วิไลวรรณ แก้วสุข อายุ 23 ปี มีอาการแน่นหน้าอก ร้านสะดวกซื้อเสียหายหมดทั้งหลัง และจุดที่ 2 เวลาประมาณ 01.10 น.เกิดเหตุระเบิดและเกิดเพลิงไหม้บริเวณร้านสะดวกซื้อ 7/11 ในพื้นที่ ม.1 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร ได้รับความเสียหายเล็กน้อย 4.อ.สุไหงโก-ลก 1 จุด เกิดเพลิงไหม้ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ภายในปั้ม ปตท.ปาเสมัส ในเขตเทศบาลตำบลปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ได้รับความเสียหายทั้งหลัง เหตุเกิด พื้นที่ ม.7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก 5.อ.จะแนะ 2 จุด จุดแรกเกิดเหตุเพลิงไม้ที่ 7-11 สาขาดุซงญอ และจุดที่ 2 เพลิงไหม้ บิ๊กซี มินิ ซึ่งตั้งอยู่เลย รพ.จะแนะ ได้รับความเสียหาย 6.อ.รือเสาะ 1 จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ 7/11 ในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะ
ล่าสุดทางด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาสเรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่ศาลากลาง จ.นราธิวาส ในช่วงบ่ายของวันนี้ (17 สิงหาคม 65) โดยได้สั่งกำชับกองกำลังผสมทุกหน่วยในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบสถานประกอบการ ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งจุดล่อแหลมต่างๆขั้นสูงสุด และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบความเสียหายของร้านค้าและทรัพย์สินเพื่อที่จะได้ทำการช่วยเหลือเยียวยาตามลำดับต่อไป
ขณะที่ พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในช่วงเช้ามืด ตนเองได้ให้หน่วยเฉพาะกิจแต่ละพื้นที่ รวมทั้งชุดอีโอดีและพิสูจน์หลักฐานเข้าทำการเคลียร์พื้นที่และรวบรวมวัตถุพยาน ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น
โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว ส่วยมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุยังไม่สามารถระบุได้
“สิ่งที่แม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำคือการคลี่คลายคดีจากพยานวัตถุและบุคคลต่างๆ รวมทั้งฝ่ายปกครองให้เข้าไปสำรวจความเสียหายเพื่อที่จะเยียวยาต่อไป อีกทั้งในส่วนของการปรับแผน รปภ.ให้ชุดจรยุทธ์ในพื้นที่ควบคุมพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ และมีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกถึงมูลเหตุจูงใจ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมดเป็นกลุ่มเดียวกัน มีการวางแผนก่อนแยกปฏิบัติการ เป้าหมายของผู้ก่อเหตุรุนแรง คือสร้างความเสียหายเป็นหลัก โดยไม่ได้มุ่งหวังต่อชีวิตของประชาชนต่อย่างใด
