นราธิวาส-จนท.คุมเข้มทั้ง 13 อำเภอ หลังคนร้ายยังเหิมเกริม ยิงถล่มก่อนขว้างระเบิดใส่ฐานที่สถานีรถไฟเจาะไอร้อง จนท.เจ็บ 1
จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่กลับมาร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการวางระเบิดและเผาร้านสะดวกซื้อ 17 จุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งซุ่มยิงและปาระเบิดใส่จุดตรวจที่ อ.จะแนะ ล่าสุดที่ จ.นราธิวาส กลุ่มคนร้ายได้บุกโจมตีฐานปฏิบัติการณ์ หมวดเฉพาะกิจ นปพ.ที่ 31 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองสถานีรถไฟเจาะไอร้อง และตั้งอยู่ด้านข้างของสถานีรถไฟเจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ เหตุเกิดเวลา 19.10 น.ของช่วงคืนที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ส.ค.65 นายมาหะมะยากี หะยีมะ นายอำเภอเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พ.อ.ภาคิน เกื้อกูล ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 48 พ.ต.ท.หมัดอุสัน เส้นหีม รอง ผกก.สส.รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เจาะไอร้อง เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบฐานปฏิบัติการณ์หมวดเฉพาะกิจ นปพ.ที่ 31 ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างแนวเดียวกับสถานีรถไฟเจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ ที่ถูกคนร้ายบุกโจมตีในช่วงเวลา 19.10 น.ของคืนวันที่ 23 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ทำให้ ส.ต.ต.อัคพล บัวจันทร์ ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าท้อง 1 นาย เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
- จนท.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี รวบ 2 พรานป่าพร้อมอาวุธปืนครบมือ คาดเตรียมออกล่าสัตว์ป่า
- จังหวัดสกลนคร พัฒนาศักยภาพบุคลากร ภาคีเครือข่าย เฝ้าระวัง ดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด
- ผกร.ป่วนไม่เลิก!วางบึ้ม 5 (แตก 4, กู้ 1) ทางไปสนามบิน
- เพชรบูรณ์-ผปส.มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ฯ จี้ผู้จัดคอนเสิร์ต-จนท.เข้มบุหรี่ไฟฟ้า
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ใส่ฐานฯ จำนวน 3 ลูก ลูกที่ 1. ตกคาอยู่และไม่ทำงาน ที่บริเวณหลังคาของอาคารน็อคดาวน์ 1 จำนวน 1 ลูก เจ้าหน้าที่ อี.โอ.ดี. จึงทำการเก็บกู้เอาไว้ได้ ส่วนอีก 2 ลูก ลูกที่ 1.ไปตกที่บริเวณหลังคากระเบื้องของศาลาฝั่งตรงข้ามอาคารน็อคดาวน์ 1 ที่ใช้สำหรับเป็นที่นั่งรับประทานอาหารของกำลังพล และลูกที่ 2.ไปตกที่บริเวณทางเดินภายในฐาน ห่างจากเพิงศาลานั่งรับประทานอาหารของกำลังพล ประมาณ 10 เมตร โดยทั้ง 2 จุด มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ
นอกจากนี้ที่บริเวณริมถนนด้านขวามือของฐานฯ ซึ่งเป็นถนนในหมู่บ้านตัดผ่านคั่นกลางกับบ้านเรือนของประชาชน เจ้าหน้าที่พบสลักนิรภัยของระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ที่คนร้ายได้ดัดแปลงจากท่อ พี.วี.ซี.สีฟ้า ตกอยู่ จำนวน 3 อัน ที่คนร้ายใช้เป็นจุดขว้างเข้าใส่ฐานฯ รวมทั้งรถยนต์หุ้มเกราะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของ สภ.เจาะไอร้อง ซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้กับทางเข้าฐาน ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณบังโคลนหลังด้านซ้ายมือของคนขับ 1 นัด ส่วนบริเวณด้านซ้ายมือของฐานฯ ซึ่งเป็นแนวเดียวกับรางรถไฟ เป็นจุดที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่ฐานฯ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงคราม อา.ก้า.และเอ็ม.16 จำนวนกว่า 30 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คน แยกกำลังออกเป็น 2 ชุดปฏิบัติการณ์ โดยอาศัยความมืดแฝงตัวมาทางด้านซ้ายและด้านขวาของฐานฯ โดยกลุ่มคนร้ายด้านซ้ายมือของฐาน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่ฐาน และคนร้ายด้านขวามือของฐาน ได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ขว้างใส่เข้าไปในฐานฯ จำนวน 3 ลูกซ้อน โดยระเบิดไปตกคาอยู่ที่บริเวณหลังคาของอาคารน็อคดาวน์ 1 แต่ไม่ทำงาน ลูกที่ 2 ไปตกบนหลังคาเพิงศาลาสำหรับให้กำลังพลนั่งรับประทานอาหาร ลูกที่ 3 ไปตกทางเดินในบริเวณบาฯห่างจากเพิงศาลานั่งรับประทานอาหารของกำลังพล ประมาณ 10 เมตร ซึ่งขณะนั้น ส.ต.ต.อัคพล ที่ได้รับบาดเจ็บกำลังวิ่งเข้าประจำจุด เพื่อยิงตอบโต้กับคนร้าย หลังจากที่ ร.ต.อ.ชยพล หนูสมจิต ผู้บังคับหมวดชุดเฉพาะกิจ นปพ.ที่ 31 ได้สั่งให้กำลังพลทุกนายเข้าประจำจุด พร้อมยิงตอบโต้กับคนร้าย แต่ด้วยสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เจ้าหน้าที่กระทำได้เพียงใช้อาวุธปืนประจำกายยิงข่มขู่ขึ้นฟ้า เพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปในฐาน เนื่องจากเกรงกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่พลาดไปถูกบ้านเรือนของประชาชน โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานเป็นระยะๆ นานกว่า 30 นาที จนกระทั่งกลุ่มคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง เดินทางเข้ามาสนับสนุน คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์หุ้มเกราะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง ก่อนที่จะนำกำลังล่าถอยไป
ด้านแหล่งข่าวความมั่นคงได้ประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ น่าจะมีคนร้ายบางคนในกลุ่ม ที่เคยก่อเหตุลอบนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้ในร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี และร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา อ.เจาะไอร้อง ในคืนของวันที่ 17 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณจุดเกิดเหตุ และบริเวณเส้นทางต่างๆที่มุ่งหน้าไปยังฐานฯ ที่ใช้เป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายต่อไป
และจากเหตุการณ์ที่เริ่มปะทุอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารตำรวจและฝ่ายปกครองผนึกกำลังกับภาคประชาชน หลังจากที่นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส ได้เรียกประชุมด่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้ง 13 อำเภอเพื่อเป็นหูเป็นตากับลูกบ้านในการสอดส่องบุคคลแปลกหน้าหรือวัตถุต้องสงสัย เพื่อเป็นเกราะป้องกันชุมชนของตนเองให้เป็นชุมชนเข้มแข็ง
ขณะเดียวกัน พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และ พลตำรวจตรี แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาสได้กำชับไปยังจุดตรวจจุดสกัดทั้งด่านถาวรคุมเข้มเฝ้าระวังโดยให้มีการตรวจสอบยานพาหนะที่ผ่านเข้า-ออก ตามเส้นทางล่อแหลม รวมทั้งตั้งด่านลอยกระจายไปตามพื้นที่สุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะโซนเศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสและเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เนื่องจากมีการแจ้งเตือนจากแหล่งข่าวว่ากลุ่มก่อเหตุรุนแรงมีเป้าหมายในการทำลายเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ด้วยการวางระเบิดคาร์บอมบ์ในสถานที่สำคัญๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: