นราธิวาส-แกะรอยรถคาร์บอมบ์ ส่วนผู้กองอ๊อดพบพิรุธตะโกนเรียกคนร้ายก่อนพบจุดจบ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 65 พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส ได้เดินทางไปยังแฟลตเจ้าหน้าที่ตำรวจจุดเกิดเหตุ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองช่าวเทศบาลเมืองนราธิวาส เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส ได้นำเครื่องไม้เครื่องมือ รวมถึงรถ JCB รถยก มาช่วยกันขนย้ายซากรถยนต์ รถ จยย.ที่ได้รับความเสียหาย ออกไปไว้ที่บริเวณ สภ.เมืองนราธิวาส รวมทั้งได้ช่วยกันขนย้ายและเก็บกวาดซากปะหลักหักพัง จากอนุภาพของระเบิดในการเคลียร์พื้นที่ ซึ่งคาดการณ์ต้องใช้เวลาอีกสักระยะจึงแล้วเสร็จ
ในส่วนของข้าราชการตำรวจและครอบครัว ที่บ้านพักได้รับความเสียหายจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ โดยทาง พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9 ได้มีการประสานไปยัง กกท. จ.นราธิวาส เพื่อขอใช้ห้องพักชั่วคราวภายในสนามฟุตบอล ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวได้พักอาศัย จำนวน 40 ห้อง รองรับเจ้าหน้าที่ได้ 120 คน นอกจากนี้ยังใช้บ้านพักของ สภ.ตันหยงอีกจำนวนหนึ่งไว้รองรับผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งเจ้าหน้าที่บางส่วนก็มีบ้านพักของตนเองอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าไม่เดิอดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างแน่นอน
ข่าวน่าสนใจ:
แหล่งข่าวนายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พักอาศัยอยู่ที่แฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนที่ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธ์นิยะ หรือ ผู้กองอ๊อด รอง สว.ป.ปฎิบัติหน้าที่ รอง สว.จร.จะเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ได้พบเห็นคนร้ายกำลังเดินออกจากบริเวณแฟลต หลังจากนำรถยนต์คาร์บอมบ์มาจอดทิ้งไว้ โดย ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ ได้เรียกคนร้ายแต่คนร้ายเดินออกไปหน้าตาเฉย โดยที่ไม่สนใจและเหลียวหลังหันหน้ามาพูดคุยกับ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ แต่อย่างใด หลังจากนั้นผ่านไป ขณะที่ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ กำลังเดินเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ จึงเกิดระเบิดขึ้นทำให้ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ เสียชีวิตคาที่
ในส่วนของกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส กำลังไล่เส้นทาง 3 มุมเมือง ที่มุ่งสู่เขตเทศบาล คือ บริเวณด่านจุดตรวจร่วมปลักบ้าน ที่มุ่งหน้ามายัง อ.ยี่งอ จุดตรวจริมน้ำ ที่มุ่งหน้ามาจาก อ.ตากใบ และจุดตรวจโคกเคียน ที่มุงหน้ามาจาก อ.บาเจาะ เนื่องจากทั้ง 3 จุดตรวจ คนร้ายต้องขับรถยนต์คาร์บอมบ์ผ่านที่ใดที่หนึ่ง ส่วนจุดเกิดเหตุวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน กำลังนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปเปรียบเทียบกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ที่ขี่และซ้อนท้าย รถ จยย.คนร้ายอีก 1 คน ที่มารอรับคนร้ายหลังจากนำรถยนต์คาร์บอมบ์ไปจอดภายในแฟลตแล้วเสร็จ ก่อนที่จะขับรถ จยย.หลบหนี
ในส่วนของรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู รุ่นดีแม๊กซ์ ทะเบียน กค 6961 ตรัง ที่คนร้ายใช้เป็นคาร์บอมบ์นำจอดภายในบริเวณแฟลตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนายหนึ่งเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้ออกใบสั่งให้กับ น.ส.ฟาตียะ ประดู่ อายุ 32 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ในข้อหาขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนูญาต ที่บริเวณทางหลวงแยกสะปอม ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งขณะเขียนใบสั่ง ได้พบเห็นผู้ชาย 1 คน นั่งรถยนต์กระบะคู่กับ น.ส.ฟาตียะ 1 คน ซึ่งล่าสุดพบว่าใบสั่งดังกล่าว น.ส.ฟาตียะ ยังไม่ได้เสียเงินค่าปรับ จำนวน 400 บาท แต่อย่างใด
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี กำลังเร่งตรวจสอบประวัติของรถยนต์กระบะคาร์บอมบ์คันดังกล่าว ว่า น.ส.ฟาตียะ ซึ่งเป็นเจ้าของรถได้มีการขายด้วยการโอนลอย หรือให้ใครยืมไปก่อนที่จะมีคนร้ายใช้เป็นพาหนะในการซุกซ่อนระเบิดไปก่อเหตุที่แฟลตตำรวจหรือไม่อย่างไร ควบคู่กับจะประสานขอความร่วมมือ น.ส.ฟาตียะ มาให้ข้อมูลอีกครั้ง หากพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะปล่อยตัวไป
ส่วนทางด้านศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยา จ.นราธิวาส ได้สรุปตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแฟลตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส มีจำนวนทั้งสิ้น 45 คน เสียชีวิต 1 คน เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น โดยผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 10,000 บาท สาหัส 50,000 บาท เสียชีวิต 500,000 บาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: