นราธิวาส-ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นประธานรดน้ำศพ รองสารวัตรงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนราธิวาส ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายวางระเบิดคาร์บอมบ์ภายในแฟลตตำรวจ ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น เลื่อนยศเป็น พล.ต.อ.พร้อมดูแลสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ที่วัดบางนรา ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พล.ต.ท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ อายุ 52 ปี รองสารวัตรงานป้องกันปราบปราม ปฏิบัติงานจราจรและความมั่นคง สภ.เมืองนราธิวาส ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีผู้บาดเจ็บ 45 ราย
โดยพิธีมี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พลตำรวจตรี ปราบพาล มีมงคล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนราธิวาส ตลอดจนข้าราชการตำรวจ ทหารและประชาชนประมาณ 300 คนเข้าร่วมพิธีเพื่อไว้อาลัยแก่ผู้วายชนม์เป็นครั้งสุดท้าย
ซึ่ง พลตำรวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9วางพวงหรีดเคารพศพของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรัฐมนตรี รวมทั้ง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการดูแลเยียวยากรณี ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ ให้เสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศเป็น พล.ต.อ. และเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงขึ้นไม่เกิน 2 ชั้นตรา รวมทั้งให้การช่วยเหลือดูแลในส่วนของสิทธิประโยชน์อื่นเป็นกรณีพิเศษ อาทิ เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ ตร., เงินช่วยพิเศษ 3 เท่าเงินเดือนสุดท้าย, เงินบำเหน็จตกทอด, เงินบำนาญพิเศษรายเดือนสำหรับทายาท, เงินช่วยเหลือทุนการศึกษารายปี/ เงินยังชีพรายเดือนสำหรับบุตร และอีกมากมาย รวมทั้งการบรรจุทายาทเข้ารับราชการตำรวจเป็นกรณีพิเศษ โดยในส่วนของเงินช่วยเหลือต่าง ๆ นั้น ในเบื้องต้นรวมแล้วเป็นเงินประมาณ 3,774,760 บาท
สำหรับ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ เป็นคน อ.สิงหนคร จ.สงขลา ภรรยาชื่อ นางเสาวรัตน์ พันธนิยะ มีบุตร 3 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.กัลยรัตน์ พันธนิยะ อายุ 26 ปีอาชีพธุรกิจส่วนตัว 2. น.ส.นภัสสร พันธนิยะ อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ ปี 6 มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และ 3. ด.ช.กิตติพศ พันธนิยะ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนนราธิวาส ส่วนศพจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาเจดีย์ทอง วัดบางนรา อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 28 พ.ย.2565
โดยนางเสาวรัตน์ พันธนิยะ ภรรยาของตำรวจที่เสียชีวิตบอกว่า วันที่เกิดเหตุการณ์สามีของเธอกำลังยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วก็มีรถคันที่ก่อเหตุขับเข้ามา เขาก็รู้ว่าเป็นรถต้องสงสัย ก็เข้าไปดูรถ และพอรู้ว่าเป็นรถต้องสงสัยมีระเบิด เขาก็ตะโกนบอกทุกคนที่อยู่ในแฟลตว่าเป็นรถต้องสงสัยจะมีระเบิด แล้วก็หันหลังเข้าบ้าน ก็ไม่แน่ใจว่าจะรีบไปทำงานหรืออย่างไร แต่ก็วิ่งเข้าไปในบ้านไม่ทัน ก็เกิดระเบิดตามหลัง แล้วเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน ตอนนั้นเหตุการณ์ก็ชุลมุนไปหมด ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แล้วก็มีผู้บาดเจ็บหลายคน
“เหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่อยากจะให้เกิดกับทางครอบครัว ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ อยากอยู่มีชีวิตปกติทั่วไปทุกวัน แต่ถูกกำหนดมา เราไม่รู้ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ก็รับรู้แล้วว่าเหตุการณ์มันหยุดอยู่ตรงนี้ สามีหลับนอนสบายไปแล้ว ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว”
ทางด้านแหล่งข่าวความมั่นคงทางทหารซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงนายหนึ่งเปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนและการข่าวระบุว่าระเบิดประกอบมาจากพื้นที่ อ.ตากใบ โดยกลุ่มนายซากีมัน กูบารู ซึ่งเป็นแกนนำสั่งการและครูสอนประกอบระเบิด ปฏิบัติการรับผิดชอบพื้นที่ อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก อ.เมืองนราธิวาส พร้อมสมุนไม่ต่ำกว่า 4 คน มีส่วนรู้เห็นและร่วมแผนการก่อเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจในครั้งนี้
