นราธิวาส-ตม.จับกุมแรงงานต่างด้าวใช้พื้นที่นราฯเป็นทางผ่านเข้าไปทำงานในมาเลเซีย
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 25 พ.ย. 65 พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.กรัณฑ์วาริษฐ์ สมจันทร์ สว.ตม.จว.นราธิวาส ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมป้องกันชายแดนที่ 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.มูโนะ ทำการพิสูจน์เพิงพักหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่าใช้เป็นสถานที่ให้กลุ่มบุคคลต่างด้าวพักอาศัย เพื่อแอบเล็ดลอดส่งข้ามแดนไปทำงานในประเทศมาเลเซีย จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ จำนวน 5 คน โดยแยกเป็นผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 4 คน พักอาศัยอยู่ภายในเพิงพักดังกล่าว และจากการตรวจสอบพบว่าบุคคลต่างด้าวทั้ง 5 คน ไม่มีหนังสือเดินทาง จากการสอบสวนบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ทั้ง 5 คน เจ้าหน้าที่ทราบว่า ต้องจ่ายเงินให้นายหน้าชาวเมียนมาร์คนละ 4,000,000 จ้าด เทียบเงินไทยประมาณ 50,000 บาท จากรัฐยะไข่ ลักลอบนำเข้ามายังประเทศไทยตามช่องทางธรรมชาติ จ.ตากใบ มาส่งให้นายหน้าฝั่งไทย โดยมีรถมารับส่งมาที่บริเวณเพิงพักดังกล่าว
และขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ เจ้าหน้าที่พบ นายวีรวุฒิ จันทร์สี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.8 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ได้รับค่าจ้างจากเอเย่นต์แรงงานต่างด้าวชาวมาเลเซีย วันละ 50 ริงกิต หรือเทียบเงินไทย ประมาณ 400 บาท เป็นผู้ดูแลกลุ่มบุคคลต่างด้าว ด้วยการส่งข้าวส่งน้ำเท่านั้น และครั้งนี้ตนพึ่งทำเป็นครั้งแรก
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ จำนวน 5 คน และนายวีรวุฒิ มา สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อทำบันทึกจับกุม โดยเจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ทั้ง 5 คน ในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนนายวีรวุฒิ เจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดีในข้อหา รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้าในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือ ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
ด้าน พ.ต.อ..ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส กล่าวว่า ภายหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เริ่มคลี่คลายโดยไม่ได้มีการกวดขันเหมือนในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นการเอื้อให้กลุ่มบุคคลต่างด้าวสัญชาติต่างๆ ใช้เป็นประเทศไทยเป็นทางผ่านในการเล็ดลอดเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียมากขึ้น จึงได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ออกสืบสวนหาข่าวทางลับ ตามบริเวณช่องทางข้ามธรรมชาติที่ผิดกฎหมาย เพื่อสนองนโยบายของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. ที่ให้มีการเพ่งเล็งในการวางมาตรการการกวดขันจับกุม
