นราธิวาส-ผบ.ตร.ลงใต้แถลงข่าวคดีความมั่นคง 4 คดี ทั้ง วางระเบิดขบวนรถไฟ สงขลา คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ วางระเบิดโกดังและวิสามัญโจรใต้ตาย 1 ที่นราฯ
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 2 ม.ค.66 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศราวุฒิ การพานิช ผช.ผบ.ตร. และคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาสและครอบครัว ณ บริเวณแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ซึ่งถูกคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ทำให้ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธะนิ รอง สวป.สภ.เมืองนราธิวาส เสียชีวิต 1 นาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 43 ราย โดยมี พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ท.ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส น.อ.พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.แก.นย.ทร.และ น.ท.อำนาจ ภู่ทอง ผบ.ฉก.ทร.33 คอยให้การต้อนรับ
โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เดินชมความเสียหายของแฟลตข้าราชการตำรวจ ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ใช้งบประมาณ 7 ล้านบาท ในการซ่อมแซมซึ่งแล้วเสร็จไปประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการซ่อมแซมจะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 66 ก่อนที่จะเยี่ยมให้กำลังใจข้าราชการตำรวจและครอบครัว ซึ่งทุกนายมีขวัญกำลังใจดี พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ข่าวน่าสนใจ:
ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เดินทางไปยังจุดตรวจปลักปลา ซึ่งเป็นจุดตรวจความมั่นคง และ 7 วันอันตราย ที่ได้มีการสนธิกำลัง 4 ฝ่าย ในการรักษาตรวจสอบยานพาหนะและบุคคลต้องสงสัย ก่อนที่จะเดินทางเข้าเขตพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส และทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ยานพาหนะสัญจรไปมาใช้ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง พร้อมทั้งได้เน้นย้ำอย่าตั้งอยู่ในความประมาท และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ก่อนที่จะมอบเครื่องดื่มและขนม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้เดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานในที่ประชุมข้าราชการตำรวจระดับสูง 4 จังหวัดภาคใต้ ในการมอบนโยบายในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเน้นย้ำการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยและฐานปฏิบัติการณ์ รวมทั้งการคลี่คลายคดีค้างเก่าที่สำคัญๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
ก่อนที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มีการแถลงข่าวคดีความมั่นคง 3 คดี อาทิ 1.คดีคาร์บอมบ์แฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 2.คดียิงและลอบวางระเบิดโกดังที่ อ.ตากใบ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ต.ค.65 และ 3.คดีวิสามัญสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ที่ อ.จะแนะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งผลการปฏิบัติทั้ง 3 คดี เจ้าหน้าที่ออกหมายจับ 19 คน จับกุมตัวได้ 3 คน หลบหนี 3 คน
โดยแยกเป็นคดีที่ 1. เหตุลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์แฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส จากผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ และพิสูจน์ทราบบุคคลจากกล้องวงจรปิดพบว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุในพื้นที่ อำเภอตากใบ ทำให้ทราบถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยจากการตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 6961 ตรัง คันที่นำมาประกอบระเบิด ทำให้ทราบว่าใครเป็นผู้ครอบครอง จนขยายผลให้ทำให้ทราบกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุ และสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่ร่วมก่อเหตุ จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน คือนายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ เมื่อวันที่ 29 พ.ย.65
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.65 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันบังคับใช้กฎหมาย ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 1 คน คือนายอุสมัน สะนิ ผลการซักถามบุคคลต้องสงสัยทำให้ทราบถึงผู้ร่วมก่อเหตุมี จำนวน 9 คน โดยพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอออกหมายจับบุคคลที่ร่วมก่อเหตุจำนวน 6 หมาย ดังนี้ 1.นายอับดุลมูบิน ลาเต๊ะ 2.นายอุสมัน สะนิ 3.นายอับดุลมาทิน มามะ 4.นายฮัสบูเล๊าะ สะนิ 5.นายอับดุลฮาฟีซ ดือเร๊ะ 6.นายวาฟี สะปาดี 7.นายไซปูรูสมัน มามะ 8.นายมูฮำหมัดฮาฟิส เจะดือราแม และ 9.นายอีซาล สาและ รวมออกหมายจับจำนวน 9 ราย จับกุม 2 ราย หลบหนี 7 ราย และตรวจยึดรถจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน,รถยนต์จำนวน 1 คันและสิ่งของอื่นๆ
คดีที่ 2 คดียิงและวางระเบิดโกดังเก็บสินค้าที่ อ.ตากใบ การตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ สามารถระบุบุคคลจากผลการตรวจได้จำนวน 4 ราย คือ 1.ไม่มีชื่ออยู่ในสาระบบ(โปรไฟล์ลอย) 2.นายซานูซี มะนอ มีหมายจับคดีความมั่นคง 8 หมาย 3.น.ส.มัสนา จะจา ภรรยาของนายซูกีฟลี ดือราฮิง บุคคลผู้มีหมายจับคดีความมั่นคง 2 หมาย 4.นายนัสวารี มะยิด มีหมายจับคดีความมั่นคง 3 หมาย และผลการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ทราบว่ามาจากอาวุธปืน 5 กระบอก มีประวัติใช้ก่อเหตุในพื้นที่ อ.ตากใบ ,สุไหงปาดี ,สุไหงโกลก และแว้ง
ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว น.ส.มัสนา จะจา จนสามารถรู้ตัวบุคคลที่ร่วมก่อเหตุรวม 5 คน และศาล จ.นราธิวาส ได้ออกหมายจับ ประกอบด้วย 1.นายซานูซี มะนอ 2.นายนัสวาสรี มะยิด 3.นายซูฟีฟลี ดือราฮิง 4.นายรอสฝัน มะดง และ 5.น.ส.มัสนา จะจา รวมออกหมายจับ 5 คน จับกุมตัวได้ 1 หลบหนีอีก 4 คดี
คดีที่ 3 วิสามัญนายฮาซัน อาแว พื้นที่ สภ.จะแนะ มีหมายจับในคดีความมั่นคง จำนวน 3 หมาย และตรวจยึดอาวุธปืน เอ็ม.16 อาวุธปืน เอ.เค.47 จำนวน 2 กระบอก รวมเป็น 3 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ผลการตรวจพิสูจน์อาวุธปืนและปลอกกระสุน เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในพื้นที่ อ.จะแนะ , ระแงะและศรีสาคร ผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ พบความเชื่อมโยงกับบุคคลจำนวน 5 คน พนักงานสอบสวน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับทั้ง 5 คนดังนี้ 1.นายต่วนดาโอ๊ะ หนิสือแม 2.นายกูนุห์ ลือบา 3.นายกอเซ็ง บารอวา 4.นายอับดุลเลาะ บูละ 5.นายซัมรี สอละซอ ซึ่งทั้ง 5 คน อยู่ในระหว่างการหลบหนี
และคดีที่ 4 ลอบวางระเบิดขบวนรถไฟขนสินค้า ระหว่างสถานีรถไฟคลองแงะ กับ ปาดังเบซาร์ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ทำให้ขบวนรถไฟตกราง รางรถไฟ และสินค้าได้รับความเสียหายไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และเมื่อ วันที่ 6 ธ.ค.65 ขณะเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าทำการเก็บกู้รางและขบวนรถไฟ ได้เกิดระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่การรถไฟ เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 4 นาย จากการตรวจที่เกิดเหตุ พบชิ้นส่วนถังแก๊สและชิ้นส่วนองค์ประกอบระเบิดบางส่วน เชื่อว่าเป็นระเบิดแบบเหยียบ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมตัว นายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ พร้อมกับอาวุธปืน 4 กระบอก ผลการซักถามของนายจีรศักดิ์ ให้การยอมรับว่าได้รับคำสั่งจาก นายอับดุล ให้ตนกับนายอัซมัน เปาะเลาะ สำรวจดูเส้นทางรถไฟ เพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุ สำหรับคดีนี้ก่อนเกิดเหตุมีพยานยืนยันว่า วันเกิดเหตุมีพยานพบเห็นและได้มีการพูดคุยกับนายอัซมัน ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กับพวก 2 คน ออกจากที่เกิดเหตุก่อนเกิดระเบิดประมาณ 30 นาที โดยในส่วนของนายอัซมัน ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับไว้แล้ว ส่วนกลุ่มที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: