นราธิวาส-พาณิชย์นราฯ จัดสินค้าลดกระหน่ำ ”นรามากัน ยาลันออนทัวร์” บรรเทาความเดือนร้อนประชาชนฐานราก
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 24 เมษายน 2566 ที่บริเวณหาดนราทัศน์ ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ”นรามากัน ยาลันออนทัวร์” ครั้งที่ 1 ภายใต้โครงการพาณิชย์..ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย (จังหวัดนราธิวาส) โดยมี นายสังคม เกิดก่อ ปลัดจังหวัดนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรีจิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอเมืองนราธิวาส นางนฤมล แก้วมุกดากุล พาณิชย์จังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
ทั้งนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส กำหนดจัดงาน “นรามากัน ยาลันออนทัวร์” ภายใต้โครงการ “พาณิชย์…ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย ” (จังหวัดนราธิวาส) ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ภายในงานมีกิจกรรมสินค้าส่งเสริมการขาย การออกร้านจำหน่ายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ OTOP/SMEs สินค้าเกษตร สินค้าอุปโภค บริโภค จำนวนกว่า 100 บูธ และการแสดงบนเวทีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยมีกำหนดจัดงานจำนวน 4 ครั้ง
ประกอบด้วยครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 -25 เมษายน 2566 ณ หาดนราทัศน์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 28 – 30 เมษายน ณ สนามฟุตบอลโรงเรียนตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 3 – 5 พฤษภาคม ณ ลานคนเดินเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 8 – 10 พฤษภาคม ณ สนามกีฬากลางเทศบาลตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
และสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพที่นำมาจำหน่ายภายในงาน มีจำนวน 5 รายการ อาทิ ไก่-น่องติดสะโพก กิโลกรัมละ 60 บาท ไข่ไก่ เบอร์ M (เบอร์ 2-3) แผงละ 80 บาท น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 15 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ขวดละ 35 บาท ข้าวหอม (ถุง 5 กิโลกรัม) ราคาถุงละ 110 บาท และข้าวขาว 5% (ถุง 5 กิโลกรัม) ราคาถุง 70 บาท
ทางด้านนางนฤมล แก้วมุกดากุล พาณิชย์จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน ลดค่าครองชีพของประชาชน เพิ่มช่องทางการในการเลือกซื้อสินคาอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันในราคาประหยัด เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าและเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกร และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนรวมทั้งการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น
