นราธิวาส – “มทภ.4” อุบ! กลุ่มเสี้ยมแบ่งแยกดินแดน ยันพร้อมทำงานกับรัฐบาลชุดใหม่ ตั้งเป้าปี 70 ในพื้นที่จะมีแค่ทหารประจำการปกติ
วานนี้ (16 มิ.ย.66) ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า จัดกิจกรรมพบปะพัฒนาสัมพันธ์สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสานความร่วมมือในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การเสริมสร้างความเข้าใจทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึงต่างประเทศ ที่ห้องบางนรา โรงแรมอิมพีเรียล จ.นราธิวาส โดยมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัวที่ดูแลในพื้นที่ 13 อำเภอเข้าร่วม
แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวถึงการทำงานของกองทัพภาคที่ 4 ว่า ทหารทุกนาย กองกำลังทุกส่วนมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำพาความสันติสุขกลับมาสู่พื้นที่ พร้อมทำหน้าที่ปกป้องประชาชนทุกภาคส่วนให้ดำรงอยู่ได้ด้วยความสงบ โดยยึดแนวทางเข้าถึง เข้าใจ และพัฒนา รวมถึงหลักการความถูกต้องต่างๆ ที่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องสงบอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีไวรัลในสื่อโซเชียลเรื่องการแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ หรือการจัดกิจกรรมสุ่มเสี่ยงที่เข้าข่ายการปลุกระดม ชี้แนะ ในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าไปตรวจสอบและพูดคุยบ้างแล้ว พยายามที่จะไล่เรียงไปเป็นขั้นตอน แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ลึกกว่านี้ เชื่อว่าหลังจากนี้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีก ขณะเดียวกัน มีการดำเนินการสืบสวน ตรวจสอบถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในส่วนนี้ต้องดำเนินการกันไป แต่ทุกอย่างดำเนินการด้วยความรอบคอบ รัดกุม บนพื้นฐานสิทธิมนุษยชน
“ในส่วนของกองกำลังทหารนั้น ขณะนี้ได้มีการจัดทำข้อมูลความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนทหาร เหตุความจำเป็นของกองกำลังในขณะนี้ รวมถึงแนวทางการดำเนินงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ โดยพร้อมเสนอรัฐบาลทันทีที่มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้น และพร้อมที่จะทำงานกับรัฐบาลทุกชุด” พล.ท.ศานติ กล่าว
นอกจากนี้ พล.ท.ศานติ ยังเผยอีกว่า ในส่วนของทหารเอง ในด้านความมั่นคงมีแผนลดทหารในพื้นที่ตามสถานการณ์ความมั่นคงอยู่แล้ว โดยทุกๆ ปีมีการลดจำนวนทหารลงเป็นประจำ และมีการคาดการณ์ในปี 2570 ซึ่งเป็นโมเดลที่กำลังทหารด้านความมั่นคงไม่มีแล้ว แต่ยังคงต้องมีทหารประจำการในพื้นที่ตามปกติ
