นราธิวาส-ม.นราธิวาสฯ หล่อเทียน สมโภชเทียน 9 ต้น ก่อนนำไปถวาย 9 วัดที่นราธิวาส เพื่อจรรโลงจิตใจและทำนุบำรุงศาสนาให้เบ่งบานในพื้นที่ปลายด้ามขวาน
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ที่วิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นประธานในพิธีหล่อเทียน สมโภชเทียน และถวายเทียนพรรษา ประจำปี 2566 จำนวน 9 ต้น 9 วัด ในจังหวัดนราธิวาส โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.รสสุคนธ์ แสงมณี ประธานกรรมการที่ปรึกษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ คณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไปร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน
โดยมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ได้จัดพิธีหล่อเทียน สมโภชเทียน และถวายเทียนพรรษาเป็นประจำทุกๆปี และในปี 2566 นี้ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ได้กำหนดจัดพิธีหล่อเทียน สมโภชเทียน ขึ้นในวันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2566 ณ วิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และถวายเทียนพรรษา ในวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2566 เพื่อส่งเสริมและร่วมกันสืบสานอนุรักษ์ประเพณีหล่อเทียนพรรษา ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาให้ดำรงอยู่สืบไป เพื่อให้พุทธศาสนิกชน บุคลากร และนักศึกษา ได้ร่วมประกอบพิธีหล่อเทียนพรรษา และถวายเป็นพุทธบูชาโดยพร้อมเพรียงกัน อีกทั้งเพื่อเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เบ่งบานในพื้นที่ปลายด้ามขวานไทย
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับปีนี้ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้จัดให้มีกิจกรรมหล่อเทียนพรรษา จำนวน 9 ต้น เพื่อนำไปถวายตามวัดต่างๆ จำนวน 9 วัด เช่นทุกปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย วัดพรหมนิวาส, วัดทุ่งกง, วัดพนาสณฑ์, วัดโคกเคียน, วัดบางนรา, วัดประชาภิรมย์, วัดทุ่งคา, วัดเวฬุวนาราม (วัดป่าไผ่) และวัดรัตนานุสรณ์
ทางด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จงรัก พลาศัย นายกสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า สำหรับพิธีหล่อเทียน สมโภชเทียน และถวายเทียนพรรษา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของประเพณีหล่อเทียนพรรษา ซึ่งควรที่จะอนุรักษ์ให้อยู่คู่กับสถาบันการศึกษาเพื่อถ่ายทอดให้บุคลากรและนักศึกษาที่นับถือศาสนาพุทธ รวมทั้งพุทธศาสนิกชน ได้สืบสานประเพณีอันดีงาม ของพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป ซึ่งมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้จัดกิจกรรมหล่อเทียนพรรษา 9 ต้น เพื่อนำไปถวายตามวัดต่างๆ จำนวน 9 วัด มาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ยอมรับและชื่นชม พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือร่วมใจทั้งบุคลากรภายใน และบุคคลภายนอกด้วยดีเสมอมา
ทั้งนี้พิธีหล่อเทียนพรรษา มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เพราะเมื่อสมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าใช้อย่างในปัจจุบัน เวลาพระภิกษุสามเณรจะสวดมนต์ท่องจำตำรับตำราต้องอาศัยแสงสว่างจากคบ ตะเกียงและเทียนไข ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันหล่อเทียนถวายโดยการเรี่ยไรขี้ผึ้งจากผู้มีจิตศรัทธา เมื่อมีมากพอแล้วจึงทำการหล่อที่วัดหรือสถานที่จัดงาน ทำการตกแต่งประดับประดาและแกะสลักลวดลายสวยงาม มีการประกวดประชันความสวยงามกันเป็นที่ครื้นเครง อานิสงส์ของการหล่อเทียนหรือถวายเทียนพรรษาแก่พระภิกษุสงฆ์ถือกันว่า จะทำให้เป็นผู้มีปัญญาดี เจริญก้าวหน้าเหมือนดังแสงเทียนที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ในสมัยก่อนใช้เป็นแสงสว่างในการอ่านหนังสือธรรมะและประกอบกิจวัตรของสงฆ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: