นราธิวาส-ระดมสรรพกำลัง “Big Cleaning” ก่อนปรับพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯเผยจัดโซนนิ่ง 5 โซน ให้ชาวบ้านเลือกจาก 3 ผัง เพื่อเตรียมสร้างบ้านให้ชาวมูโนะ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 8 ส.ค.66 พันเอก ชิตพล แก้วพรหม ผู้บังคับการหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 41 กองบัญชาการทหารสูงสุด ได้ระดมกำลังพลพร้อมด้วยรถแบคโฮ จำนวน 2 คัน รถตักล้อยาง 1 คัน รถขุดดินเอนกประสงค์ หรือ JCB จำนวน 1 คัน และรถบรรทุกเทท้าย 10ล้อ จำนวน 5 คัน ออกทำการปรับพื้นที่รับผิดชอบบริเวณโซน 1 ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิด จากการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซน เพื่อเตรียมพื้นที่ให้ทางสำนักงานโยธาธิการ จ.นราธิวาส ดำเนินการวัดแบ่งจัดสรรในการเตรียมพร้อมการก่อสร้างบ้านพักแต่ละหลังของเค้าโครงบ้านเดิมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งการปรับพื้นที่ในครั้งนี้โดยภาพรวมทั้ง 5 โซน ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์จึงจะแล้วเสร็จ
ด้าน พันเอก ชิตพล ผบ.นพค.41 กล่าวว่า ผมรับผิดชอบในโซนที่ 1 พื้นที่รับผิดชอบความกว้าง ประมาณ 100 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตร หน่วยของเราจัดกำลังพลและอุปกรณ์ ในขั้นแรกจะเป็นการเคลียร์พื้นที่ก่อน ทยอยเอาเครื่องจักรกลเข้ามาได้ ตั้งใจทำให้พี่น้องชาวตลาดมูโนะให้เร็วที่สุดเพื่อสามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ เมื่อเสร็จภารกิจเรียบร้อยจะส่งให้ทางจังหวัดดำเนินการฟื้นฟูในขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส ได้เป็นประธานปล่อยกลุ่มจิตอาสา จำนวน 500 คน มีทั้งข้าราชการและประชาชน ได้ร่วมกันเก็บซากเศษชิ้นส่วนซากปรักหักพัง ขยะมูลฝอย โดยมีการแยกซากเศษเหล็กไว้ต่างหาก ให้เจ้าของบ้านสามารถขายเศษซากชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่มีอาชีพรับซื้อของเก่า ที่เข้ามาหาซื้อของเก่าในพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นจำนวนมาก เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ในชีวิตประจำวัน ในการทดแทนอาชีพหลักที่ส่วนใหญ่ทำมาค้าขายซึ่งช่วงนี้ขาดรายได้ โดยจิตอาสาทั้ง 500 คน ได้แบ่งหน้าที่ออกทำงานโซนละ 100 คน ทั้ง 5 โซน ซึ่งคาดว่าต้องออกทำหน้าที่รับผิดชอบในส่วนนี้นานประมาณ 1 สัปดาห์ควบคู่กับการทำหน้าที่เคลียร์พื้นที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร และสำนักงานชลประทานที่ 17 ได้นำเครื่องจักรกลหนัก
“หลังทำการเคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จ เราได้มีการออกผังบ้านเรือนของประชาชนชาวตลาดมูโนะ ที่จะสร้างให้ใหม่มี 3 รูปแบบให้เลือกว่าชาวบ้านจะเอาแบบไหน ซึ่งใน 3 แบบนี้จะนำมาเรียนชี้แจงให้กับผู้ประสบภัยได้เห็นและพิจารณาจะเลือกแบบไหนในวันพรุ่งนี้ จะมีการปรับอะไรอยู่พอสมควร แต่เนื้อที่ของพี่น้องประชาชนไม่ได้ลด แต่อาจจะมีการขยับที่และมีการปรับถนน ซอยเล็กๆให้มีความกว้างมากขึ้นโดยเอาพื้นที่ถนนมาชดเชยแต่พื้นที่ถนนอาจจะน้อยลง เอาถนนที่เราปรับมาเป็นเนื้อที่ให้ชาวบ้านแทน แล้วบ้านเรือนหรือร้านค้าหน้าร้านเนี่ยติดถนนทุกร้านทุกหลัง เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทำการค้าขาย” ผวจ.นราธิวาสกล่าว
ขณะที่ นางสาวนอรีนา เจาะเลาะ เจ้าของบ้านเลขที่ 51/16 ที่ทองรูปพรรณหายหลังเกิดเหตุโกดังระเบิด เล่าถึงวินาทีที่เจอทองว่า รู้สึกดีใจมากที่เจอทองที่หายไป เพราะว่าเป็นชิ้นสุดท้ายแล้วที่มีอยู่ คิดว่าโดนไฟไหม้หมดแล้ว ดีใจมากดีใจที่สุดเลย มาหาตั้งแต่เช้าแล้วเพราะมีความหวังว่าจะยังมีอยู่
