นราธิวาส-ตำรวจน้ำนราฯ จับเรือประมงเวียดนาม 1 ลำ พร้อมลูกเรือ 5 คน ขณะรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทยลอบจับปลิงทะเล ห่างจากปากร่องน้ำบางนรา 26 ไมล์ทะเล
วันนี้ (10 กันยายน 2566) ที่กองบังคับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ อ.เมือง จ.นราธิวาสภายใต้อำนวยการสั่งการของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน.,พ.ต.อ.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช รอง ผบก.รน.,พ.ต.อ.ปรเมษฐ โพยนอก ผกก.7 บก.รน., พ.ต.อ.นิรัตน์ ช่วยจิตต์ ผกก.2 บก.รน.,พ.ต.ท.นัฐพงศ์ ตาแก้ว รอง ผกก.7 บก.รน., พ.ต.ท.วินัย นิ่มฟัก รอง ผกก.2 บก.รน, พ.ต.ท.อนุสรณ์ สมุทรกิตติศักดิ์ รอง ผกก.2 บก.รน.,ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศรัณย์วิทย์ ฐีระเวช สว.ส.รน.1 กก.7 บก.รน.,พ.ต.ต.ยุรนันท์ มีเดช สว.กก.2 บก.รน.,พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการออกปฏิบัติภารกิจปราบปรามการกระทำความผิดทางทะเล
ทั้งนี้ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่553/3565 ลง 17 พ.ย.65 เรื่องศูนย์พิทักษ์ เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.), คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่320/2566 ลง 19 พ.ค.66 เรื่องศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร) ประกอบคำสั่งกองบังคับการตำรวจน้ำ ที่ 418/2566 ลง 31 พ.ค.66 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกปฏิบัติการออกตรวจลาดตระเวนใน เขตรับผิดชอบทางทะเลของกองบังคับการตำรวจน้ำ โดยเมื่อวันที่ 9 ก.ย.66 เวลาประมาณ 18.45 น.โดยเรือตรวจการณ์หมายเลข 817 พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจลาดตระเวนในทะเล ในพื้นที่ ละติจูด 6 องศา 53 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 101 องศา 50 ลิปดาตะวันออก ซึ่งห่างจากปากร่องน้ำบางนรา อ.เมือง จ.นราธิวาส ประมาณ 26 ไมล์ทะเล
โดยประมาณที่พิกัดดังกล่าวได้พบเห็นเรือไม่ทราบ สัญชาติ และมีลักษณะไม่เหมือนกับเรือประมงสัญชาติไทย ไม่ชักธงชาติไทยกำลังทำการประมงอยู่ในเขตสิทธิการประมงของไทย พ.ต.ท.ศรัณย์วิทย์ฯ หน.ชุดจับกุม จึงได้สั่งการให้นำเรือยางท้องแข็ง (RHIB) โดย พ.ต.ต.ยุรนันท์ เป็นผู้ควบคุมเรือยางท้องแข็ง (RHIB) ออกทำการตรวจสอบใกล้ๆ เมื่อเรือยางท้องแข็ง (RHIB) เข้าไปใกล้กับเรือลำดังกล่าว ปรากฏว่าพบเห็นเรือลำดังกล่าวกำลังทำการประมงชนิดคราดปลิงอยู่ จึงได้ให้สัญญานเพื่อเข้าขอทำการเทียบเรือและขอทำการตรวจค้นแต่เรือดังกล่าวมีพฤติการณ์หลบหนี จนกระทั่งเรือยางท้องแข็ง (RHIB) เข้าทำการจอดเทียบกับเรือลำดังกล่าวได้ พร้อมกับแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ขอตรวจเอกสารเรือ คนประจำเรือ แต่ทั้งหมดไม่สามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ และไม่มีเอกสารใด ๆ มาแสดง เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบเบื้องต้น แต่เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรง พ.ต.ท.ศรัณย์วิทย์ฯ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำควบคุมเรือประมงลำดังกล่าวกลับมายังท่าเทียบเรือ ส.รน.3 กก 7 บกรน. เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป และจากการตรวจสอบเบื้องต้นปรากฏว่าเรือประมง ลำดังกล่าว เป็นเรือประมงเวียดนาม ที่รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตสิทธิประมงของประเทศไทยจึงได้ร่วมกันทํากการจับกุม นําตัวพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบ สภ.เมืองนราธิวาส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้พื้นที่อ่าวไทยภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลา จนถึงชายแดนไทย-มาเลเซีย จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ มีการลักลอบเข้ามาทำการประมงของ เรือประมงสัญชาติเวียดนาม เป็นจำนวนมากและบ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ ซึ่งปัญหาการลักลอบเข้ามาทำการประมงของเรือสัญชาติอื่นนี้ เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากร และธรรมชาติของ ประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ความรับผิดชอบที่กองบังคับการตำรวจน้ำตระหนัก และต้องปราบปราม จับกุม อย่างจริงจัง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ของประเทศไทย
“ตำรวจน้ำเป็นหน่วยงานทางทะเลเพื่อความผาสุขของประชาชน “
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: