นราธิวาส-“นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” รมว.สาธารณสุข เปิดอาคารผู้ป่วยนอก (OPD.) รพ.ตากใบ ก่อนเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ย้ำ! ให้ยกระดับการบริการ 30 บาทรักษาทุกโรค พร้อมชื่นชมการนำเทคโนโลยีมาใช้จัดการระบบบริการ โดยเน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
วันนี้ ( 19 กันยายน 2566 ) เวลา 13.00 น.ณ อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลตากใบ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางพร้อมด้วย นายแพทย์ โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะฯ โดยมี นายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, นายแพทย์ ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส, นายแพทย์ภุชงค์ วงศ์หิรัญรัชต์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตากใบ พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับภารกิจของ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกและที่แรก หลังโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนายแพทย์ชลน่านได้เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารผู้ป่วยนอก หรือ OPD.ของ รพ.ตากใบ ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากอาคารหลังเดิมให้มีความทันสมัยและสะดวกสบายแก่บุคลากรและผู้มาใช้บริการ โดยใช้งบประมาณในการปรับปรุงประมาณ 10 ล้านบาท และเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
โดย นายทศพล สวัสดิสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวต้อนรับพร้อมสรุปภาพรวมของจังหวัดนราธิวาส ว่า จังหวัดนราธิวาส เป็นหนึ่งในจังหวัดชายแดนใต้สุดของประเทศไทย มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซีย ประกอบด้วย 13 อำเภอ มีโรงพยาบาล 13 แห่ง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 13 อำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 111 แห่ง รับหน้าที่ในการส่งเสริม ป้องกัน ดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของประชาชน จำนวน 812,924 คนในจังหวัดนราธิวาส และนอกจากนี้เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา จังหวัดนราธิวาสได้เกิดภัยพิบัติครั้งสำคัญขึ้นคือเหตุการณ์โกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิด ที่ตลาดมูโนะ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งบุคลากรสาธารณสุขถือเป็นกำลังสำคัญ ในการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยบุคลากรสาธารณสุขทุกท่านได้เสียสละ ทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการปฏิบัติภารกิจ จนนำมาซึ่งความสำเร็จในการดูแลสุขภาพกายและใจของประชาชน และเป็นการแสดงถึงความเข้มแข็งขององค์กรด้านสุขภาพของจังหวัดนราธิวาส ดังนั้นการให้เกียรติมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจของท่านในครั้งนี้ นำมาซึ่งขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสเป็นอย่างมาก
ทางด้าน นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดประเด็นดิจิทัลสุขภาพ เป็น 1 ในนโยบายการดำเนินงานที่สําคัญ มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบบริการให้ประชาชนเข้าถึงสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยโรงพยาบาลตากใบ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 60 เตียง มีชายแดนติดประเทศมาเลเซีย ดูแลประชากรจำนวน 8 ตำบล รวม 74,474 คน ได้มีการพัฒนาที่สอดคล้องตามนโยบาย ทั้งการปรับปรุงโครงสร้างอาคารผู้ป่วยนอกให้สามารถรองรับบริการได้ 6 ห้องตรวจ และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการระบบ โดยเน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง เช่น การใช้บัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียว บริการตรวจสอบสิทธิอัตโนมัติ ระบบจอง ห้องพิเศษออนไลน์ ระบบจอภาพคิวการรักษาในจุดที่มีผู้รับบริการจำนวนมาก ระบบแพทย์บันทึกข้อมูลการรักษา (Hospital Information System : HIS) และสั่งยาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Paperless) เป็นต้น รวมทั้งยังเปิดให้บริการนอกเวลาราชการและวันหยุด ส่งผลให้แต่ละวันมีผู้รับบริการเฉลี่ย 446 คน เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพิ่มคุณภาพบริการ ลดความแออัด ลดระยะเวลารอคอยการรักษา รวมถึงช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จําเป็นของบุคลากรการแพทย์อีกด้วย
นอกจากนี้ โรงพยาบาลตากใบยังมีการพัฒนาระบบบริการอื่น ๆ ทั้งการดูแลผู้ป่วยในที่บ้าน (Homeward) มินิธัญญารักษ์ ดูแลผู้ป่วยยาเสพติด หออภิบาลทารกแรกเกิด หน่วยฟอกเลือดด้วยไตเทียม การล้างไตทางช่องท้อง การดูแลผู้สูงอายุ “ชราธิวาส” การแพทย์ปฐมภูมิและโรงเรียนแพทย์ชุมชน ซึ่งเป็นการจัดบริการตามแนวทาง การพัฒนาระบบบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข
“แผนกผู้ป่วยนอก ถือเป็นด่านหน้าในการรับผู้ป่วย การนำเทคโนโลยี นวัตกรรมมาปรับปรุงการจัดบริการให้มีความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัยทั้งต่อผู้ให้บริการและผู้รับบริการ จึงมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจ และเชื่อมั่นในระบบบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนถือว่ามีส่วนสำคัญและขอให้คิดว่าบทบาทนี้ เป็นภารกิจที่สำคัญยิ่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อสม.ด้วยเช่นกันที่ทุกคนจะต้องมีบทบาทในการเข้าถึงประชาชนตามบ้านเรือนในทุกชุมชน ที่สำคัญให้ยกระดับการให้บริการตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคให้ทั่วถึงและอย่างดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยทุกราย” นายแพทย์ชลน่านกล่าว
