นราธิวาส-รมว.ยุติธรรมส่งคณะทำงานลงนราฯ ถก 5 หน่วยงานหลัก รวบรวมข้อมูลแก้ปัญหาให้คนแดนใต้ ยัน พ.ร.ก.เป็นกฎหมายเข้าถึงคนร้าย ไม่ใช่ป้องกันเหตุ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 ต.ค.66 ที่ห้องประชุมเรือนจำ จ.นราธิวาส นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ปธ.คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และคณะทำงานของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมและ หน.พรรคประชาชาติ ร่วมเดินทางมารับฟังปัญหาข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม 5 หน่วยงานหลักที่ขึ้นตรง ประกอบด้วย สำนักงานคุมประพฤติ จ.นราธิวาส, สำนักงานบังคับคดี จ.นราธิวาส, เรือนจำ จ.นราธิวาส, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.นราธิวาส และสำนักงานยุติธรรม จ.นราธิวาส เข้าร่วมประชุมนานร่วม 3 ชั่วโมง
ในที่ประชุมได้ข้อสรุปปัญหาต่างๆเพื่อรวบรวมให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้นำไปพิจารณาแก้ไขปัญหาที่ค้างคามานาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม อาทิ ค่าตอบแทนพิเศษของเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่ได้โควต้าจากจังหวัด ไม่เหมือนหน่วยงานอื่นๆ ค่าเดินทางไปราชการต้องใช้เงินตัวเอง รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในสำนักงานเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะเรือนจำ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเรือนจำที่มีค่าใช้จ่ายของสาธารณูปโภคที่สูงกว่าเรือนจำปกติ ที่ไม่มีงบใช้จ่าย
ข่าวน่าสนใจ:
โดย นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เป็นเวลานานกว่า 20 ปี ที่ปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับคน 3 จังหวัดเยอะมาก ซึ่งกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเสมอภาคเรื่องสิทธิมนุษยชน และถูกกระทำมากที่สุดตั้งแต่มีกฎหมายพิเศษ 2 ฉบับ โดย รวม.ยุติธรรมกำชับว่าต้องใช้หลักยุติธรรม มาใช้แก้ปัญหาต่างๆ ต้องแก้ปัญหาด้วยกฎหมาย วันนี้เราไม่สามารถจะทำหรือยกเลิกกฎหมายพิเศษอะไร หรือแม้จะยกเลิกบางส่วน ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้หมด ความเหลื่อมล้ำการใช้อำนาจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะทำอย่างไรให้กฎหมายเหล่านี้เสมอภาค ให้เท่าเทียมกันทุกคน
ด้าน นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ปธ.คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุยชน กล่าวว่า กำหนดระยะเวลาในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าก่อนการครบกำหนดจะมีการประชุม ซึ่งโดยหลักการแล้วเชื่อว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินควรมีการยกเลิก ซึ่งวิธีการที่จะยกเลิกนั้นจะมีการยกเลิกเพียงครั้งเดียวหรือทยอยยกเลิก ซึ่งต้องมีการมาคุยกัน และเชื่อว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีอำนาจพิจารณาต่อ พ.ร.ก.เป็นมติของ ครม.ตอนนี้เท่าที่ทราบ โอกาสที่จะยกเลิกครั้งเดียวนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะเราเองก็เข้าใจหลายๆฝ่าย ซึ่งการยกเลิกนั้นอย่างน้อยต้องหามาตรการอย่างอื่นรองรับด้วยในคราวเดียวกัน ซึ่ง พ.ร.ก.ไม่ใช่เป็นมาตรการหรือกฎหมายในการป้องกันการกระทำผิด แต่เป็นกฎหมายป้องปราม นั่นหมายความว่ากฎหมายในการปราบปราม ซึ่งเมื่อเกิดเหตุแล้วสามารถเข้าถึงผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะก่อเหตุได้ง่าย เป็นเครื่องมือในการใช้หลังเกิดเหตุ ไม่ใช่เครื่องมือในการใช้ป้องกัน เพราะฉะนั้นถ้าจะมีการยกเลิก พ.ร.ก.จะต้องมีมาตรการป้องกัน แต่ทั้งนี้ยังมีกฎอัยการศึกอีก 7 วัน ซึ่งอำนาจของฝ่ายทหารก็ยังคงมีอยู่ในพื้นที่ และยังมี พ.ร.บ.ความมั่นคงอีก ซึ่งไม่ได้หมายความว่าถ้าไม่มี พ.ร.ก.แล้ว จะไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: