นราธิวาส-กฎเหล็ก มซ! ตม.โก-ลกตึบคดี “น้องแคร์” หลังถูกจับที่มาเลย์ รอเอกอัครราชทูต KL.เจรจา คาด 2 สัปดาห์ นายจ้างยื่นประกันตัวได้
จากกรณี น.ส.ชุติมณฑน์ จันทวิสิทธิ์ หรือ “น้องแคร์” อายุ 26 ปี ชาว อ.ด่านซ้าย จ.เลย ได้หายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.67 ที่ผ่านมา โดยแจ้งกับทางบ้านว่าจะเดินทางไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการ แต่เกิดเปลี่ยนใจจะไปทำงานที่จังหวัดกาญจนบุรีแทน โดยทางบ้านไม่สามารถติดต่อได้ ญาติจึงประสานขอความช่วยเหลือผ่านมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี ซึ่ง นายขวัญชัย ถิระศิลป์ คณะกรรมการมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี ได้รับเรื่อง
ล่าสุดวานนี้ ( 13 มีนาคม 2567 ) พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาส ได้ทำการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางผ่านเข้าออกด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จาก CCTV พบว่า น.ส.ชุติมณฑน์ หรือ “น้องแคร์” ได้เดินทางเข้าประเทศมาเลเซียด้วยการจ๊อบพาสปอร์ตแบบท่องเที่ยว เมื่อเวลา 14.22 น.ของวันที่ 28 ก.พ.67 ที่ผ่านมาเพียงลำพัง โดยแต่งกายด้วยการสวมเสื้อสีแดง และนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปยังด่านพรมแดนเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยพาสปอร์ตแบบท่องเที่ยวจะอยู่ในประเทศมาเลเซียได้ 30 วัน
ซึ่ง พ.ต.อ.พูลศักดิ์ ผกก.ตม.จว.นราธิวาส ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย จนทราบว่า น.ส. ชุติมณฑน์ หรือ “น้องแคร์” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกวนตัน ซึ่งเป็นเมืองของรัฐปะหัง ประเทศมาเลเซีย จับกุมตัวหลังจากที่เดินทางไปทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือ WORK PERMIT และหลังจากถูกจับก่อนที่จะถูกควบคุมตัว น.ส.ชุติมณฑน์ หรือ “น้องแคร์” ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อทาง MESSENGER ขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าของร้านอาหาร เพื่อแจ้งให้ทราบว่าถูกจับกุมตัว แต่ทางตำรวจได้ยึดโทรศัพท์มือถือ จนไม่สามารถติดต่อใครได้ ทั้งนี้เป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวน ที่ต้องใช้เวลานานประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู ไม่มีอำนาจใดๆที่จะช่วยเหลือได้ ต่อมาได้มีการประสานเป็นทอดๆ ไปยังเอกอัครราชทูตกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือในลำดับต่อไป ล่าสุด “น้องแคร์” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจย้ายไปควบคุมตัวที่รัฐปะหัง ซึ่งตามระเบียบของประเทศมาเลเซีย เมื่อถูกจับจะทำการยึดโทรศัพท์ทั้งหมด และตรวจสอบประวัตินานประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงจะให้นายจ้างยื่นประกันตัวต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: