นราธิวาส-นปพ.ร่วมฯ นำทีม หลังรับข้อสั่งการ ผบ.ทบ./ มทภ.4 ล่า ผกร.ก่อนคุม 6 ต้องสงสัยสอบ! ล่าสุดป่วนอีก พบแขวนป้ายผ้าพ่นสีสเปรย์ 12 จุด
จากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นจากฝีมือของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง ในช่วงเช้ามืดของวานนี้ ( 22 มีนาคม 2567 ) ในเวลาไล่เลี่ยกัน รวม 40 จุด แยกเป็นนราธิวาส 7 จุด ยะลา 11 จุด ปัตตานี 20 จุดและสงขลา 2 จุด เพื่อต่อต้าน “รอมฎอนสันติสุข” และหวังทำลายเศรษฐกิจในพื้นที่
โดยเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 23 มีนาคม 2567 หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดนราธิวาส นำโดย พันเอก สิทธิชัย บำรุงเขต ผบ.นปพ.ร่วม จ.นราธิวาส สนธิกำลังร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่หลายๆเหตุการณ์
โดยกรณีเหตุคนร้าย 10 คน ปล้นรถยนต์กระบะตอนเดียว ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีขาว ป้ายทะเบียน ผธ 597 สงขลา ของบริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) จากพื้นที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส จากนั้นคนร้าย 3 คน ใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ร้านวัสดุก่อสร้าง ที่ อ.ระแงะ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา
สำหรับขั้นตอนการปฏิบัติ ทางนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยัง พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.ให้กำชับลงมาทาง พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผอ.รมน.ภาค 4 ให้เน้นย้ำและกำชับกองกำลังที่เข้าปฏิบัติการ พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้ต้องสงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด และผลจากการบังคับใช้กฎหมาย สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ จำนวน 6 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปยังศูนย์ซักถามฯ เพื่อดำเนินการตามกรรมวิธี ซึ่งทั้ง 6 ราย มีภูมิลำเนาอยู่ ต.กาลิซา,ต.เฉลิม อ.ระแงะ และ ต.จะแนะ,ตำบลดุซงญอ อ.จะแนะ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดยังคงมีความพยายามสร้างสถานการณ์ป่วน โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบการแขวนป้ายผ้าระบุข้อความ “คืนทรัพยากรธรรมชาติอันล้ำค่าแด่ผู้ครอบครองที่แท้จริง” ใน 3 จชต.จำนวน 12 จุด
ทางด้านฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ผู้ก่อเหตุเตรียมการมาหลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่สามารถทำลายการเตรียมก่อเหตุได้ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ไม่มีหมายจับ เพราะเป็นผู้ก่อเหตุที่เป็นสมาชิกขบวนการหน้าใหม่ ซึ่งไม่มีชื่อในระบบของทำเนียบผู้ก่อเหตุรุนแรง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: