นราธิวาส-ชาวโก-ลกสวมเสื้อขาวร่วมกวนข้าวมธุปายาสและหล่อเทียนพรรษา
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 19 ก.ค.67 ที่อาคารรื่นอรุณ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก นำส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อผ้าสีขาว ก่อนที่จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชน์พิธีกวนข้าวมธุปายาส หรือ ข้าวทิพย์ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ก่อนที่จะร่วมกันกวนข้าวมธุปายาส หรือข้าวทิพย์ ซึ่งมีส่วนประกอบของรวงข้าวหรือนมข้าว, ผลไม้ตามฤดูกาล, พืชตระกูลถั่ว, งา, กะทิ, นมข้น, ข้าวตอกและน้ำเชื่อมข้าวโพด กวนให้เข้ากัน ตั้งไฟอ่อนๆในกระทะใบบัว ขนาดใหญ่ จำนวน 9 ใบ จนแห้งซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง เพื่อนำไปถวายวัดและมอบให้กับประชาชนที่เดินทางไปทำบุญตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก
ต่อมา นางสุชาดา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ได้นำส่วนราชการและประชาชน ประกอบพิธีหล่อเทียนพรรษา จำนวน 9 เล่ม เพื่อนำไปถวายวัดในพื้นที่ ให้พระสงฆ์จุดบูชาพระรัตนตรัยในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมทั้งได้จัดกิจกรรมแข่งขันประกวดวาดภาพระบายสี ระดับชั้นประถมศึกษา ในหัวข้อ “ทำคุณงามความดีในวันอาสาฬหบูชา” ผู้ชนะเลิศจะได้รางวัลเงินสด 1,000 บาท และการแข่งขันตอบปัญหาธรรมะ ระดับชั้นประถมศึกษาและชั้นมัธยมศึกษา ผู้ชนะแต่ละชั้นการศึกษา จะได้รับรางวัลเป็นเงินสดรางวัลละ 3,000 บาท
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับประเพณีการกวนข้าวทิพย์ เป็นพิธีกรรมของศาสนาพราหมณ์ที่ปะปนกับพิธีกรรมของศาสนาพุทธ โดยอ้างถึงเหตุการณ์ในสมัยพุทธกาลที่นางสุชาดาได้ปรุงข้าวมธุปายาส ถวายพระโคตมพุทธเจ้าก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้ ถือกันว่า ข้าวมธุปายาสเป็นของทิพย์ เมื่อได้จัดทำขึ้นจึงเรียกว่า “ข้าวทิพย์” ในประเทศไทย ชาวบ้านจะทำในเทศกาลออกพรรษา ถวายพระสงฆ์เพื่อเป็นการสักการะบูชา การกวนข้าวทิพย์ต้องอาศัยความสามัคคีจากชาวบ้านจึงจะสำเร็จลงได้ การที่ทำในวันออกพรรษา เพื่อถวายเป็นเครื่องสักการบูชาและรับเสด็จพระพุทธองค์ที่เสด็จจากจำพรรษาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นความเชื่อสืบทอดกันมาว่า บุคคลใดได้รับประทานข้าวมธุปายาส หรือข้าวทิพย์ จะเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: