นราธิวาส-“ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ระบุ! สิ้นปี ’67 กยส.ปรับนโยบายการผ่อนผันหนี้ จากดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อปี จะเหลือเพียงร้อยละ 0.5 ลั่น! จะลบคำสบประมาท “ชาวนราธิวาสยากจนที่สุดในประเทศให้ได้”
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ก.ค.67 ที่ห้องประชุม ที่ว่าการ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางลงพื้นที่เพื่อประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงยุติธรรม ได้แก่ เจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัด, ราชทัณฑ์, คุมประพฤติ, บังคับคดี, รวมทั้งตัวแทนจาก ศอ.บต., ตำรวจ, ฝ่ายปกครอง ประมาณ 30 คน เพื่อมอบนโยบายในการปฏิบัติหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูง ถึงกรณีการจ่ายหนี้เงินกองทุนเงินให้กู้เพื่อการศึกษา หรือ กยส. ที่ได้มีนโยบายในการผ่อนผันเพื่อให้ผู้ค้ำประกันและผู้กู้ยืม สามารถที่จะปลดหนี้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่า ประมาณสิ้นปี 2567 โครงการนี้สามารถปลดหนี้สินให้กับประชาชนชาว จ.นราธิวาส ที่ถือว่ามีหนี้สินมากที่สุดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 57,313 คน ซึ่งรวมหนี้สินทั้งหมดประมาณ 6,671 ล้านบาท
ทั้งนี้ นโยบายการผ่อนผันการจ่ายหนี้เงินกองทุนเงินให้กู้เพื่อการศึกษา หรือ กยส. สามารถปลดหนี้ได้มากถึงกึ่งหนึ่ง แต่ต้องมีหน่วยงานตั้งแต่ระดับจังหวัดสู่อำเภอ และอำเภอสู่ตำบล ที่สำคัญผู้ค้ำและผู้กู้ยืมเงิน กยศ.ปัจจุบันไม่รู้ว่าอยู่ในสถานะใด หรือจ่ายไปเท่าไร เหลือหนี้ติดค้างเท่าไร โดยภาพรวมทั่วประเทศเป็นหนี้ กยศ.จำนวนกว่า 2 ล้านคน โดยกลุ่มบุคคลที่เป็นหนี้ กยศ.ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน ร้อยละกว่า 90 เป็นข้าราชการ
ต่อมา รมว.ยุติธรรม ได้เดินทางไปที่โรงเรียนดารุสลาม เขตเทศบาล ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาที่ใหญ่ที่สุดของ จ.นราธิวาส ได้พูดคุยกับผู้ปกครองและนักเรียน ใจความสรุปว่า ตนเดินทางมาที่โรงเรียนแห่งนี้ เพื่อมาแจ้งข่าวดีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา คือกองทุนเงินให้กู้เพื่อการศึกษา อีกไม่นานทุกคนสามารถปลดหนี้ได้ ตนพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ทุกคนหมดหนี้หมดสิน ทรัพย์สินของท่านที่ถูกกองบังคับคดียึด ต่อไปจะไม่มีการขายทอดตลาดอีก ดอกเบี้ยที่เคยจ่ายประมาณร้อยละ 20 ต่อปี ต่อไปจะเหลือร้อยละ 0.5 ต่อปี ตนพยายามที่จะให้ชาวนราธิวาสลืมตาอ้าปากได้ และลบคำสบประมาทว่า ชาวนราธิวาสยากจนที่สุดในประเทศให้ได้
โดย รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า คนไทยร้อยละ 90 เป็นหนี้ในระบบ เช่น หนี้สถาบันการเงิน, หนี้ กยศ. มีคนเป็นหนี้ 6.8 ล้านคน กลุ่มที่ถูกตามหนี้ฟ้องร้อง 3.5 ล้านคน ปัจจุบันได้เปลี่ยนโครงสร้างหนี้ใหม่แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เช่น ผู้ค้ำต้องปลดหนี้ทั้งหมดแต่กฎหมายเขียนไว้ว่า ให้ลูกหนี้มาเซ็น ทั้งนี้มีคนอยู่ 4 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 คือลูกหนี้ที่ส่งไปแล้วคิดระบบการส่ง ให้เงินที่ส่งไปหักเงินต้น แต่ถ้าไม่ส่งดอกเบี้ยปรับ 20 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้เหลือ 0.5 เปอร์เซ็นต์, กลุ่มที่ 2 คือส่งหมดแล้วแต่ กยศ.สั่งให้นายจ้างหรือหน่วยงานหักเงิน กรณีนี้คือส่งหมดแล้วยังต้องจ่ายเงิน, กลุ่มที่ 3 คือกลุ่มที่ยังส่งไม่หมดแต่ตัวเลขหนี้มันก้อนใหญ่ ผู้ค้ำประกันเทียบเท่ากับลูกหนี้ ถ้าลูกหนี้ไม่จ่ายก็ต้องจ่ายหมด อาจจะถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ซึ่ง จ.นราธิวาส มีจำนวน 57,000 คน ถ้ารวมผู้ค้ำด้วยก็ 7 แสนกว่าคน ที่สำคัญหลังจากปรับโครงสร้างฯ แล้ว ต่อไปอาจจ่ายเพียง 5,000 บาทต่อเดือน
