“สิ้นแล้วคนดีที่บางนรา” ปมขัดแย้ง-ใครออกใบสั่งฆ่า “นายกอาร์ม”????
ผู้ว่าฯ รดน้ำศพ-วางพวงหรีดเคารพศพ “นายกเทศมนตรี ต.รือเสาะ” ซึ่งถูกคนร้ายบุกยิงในโรงงานแฮนด์ อิน แฮนด์ ซึ่งผู้ตายบุกเบิกตามเจตนารมณ์ สร้างงานสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่อย่างยั่งยืน
วันนี้ (8 พ.ย.67) เวลา 13.00 น.ที่อาคารฟ้าขาว โรงเรียนอนุบาลรือเสาะ อ.รือเสาะ ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส เป็นประธานรดน้ำศพและวางพวงหรีดเคารพศพ นายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ หรือ “นายกอาร์ม” ซึ่งถูกคนร้ายใช้ปืน อา.ก้า.บุกยิงเสียชีวิต ขณะนั่งประชุมในห้องผู้จัดการของโรงงานแฮนด์อินแฮนด์ รือเสาะ ตั้งอยู่บ้านยาแลเบาะ หมู่ 5 ตำบลและอำเภอรือเสาะ เหตุเกิดเวลา 11.30 น.วันที่ 7 พ.ย.67 ที่ผ่านมา โดย ผวจ.นราธิวาส ได้มอบเงินเยียวยาให้ทายาทผู้เสียชีวิต 4 ราย ประกอบด้วย นางถวิล (มารดา), นางรัชดา (ภรรยา) , น.ส.พิมชนก (บุตรคนที่ 1) และนายวริทธิ์ (บุตรคนที่ 2) รวมเป็นเงิน 500,000 บาท
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นที่รู้จักมักคุ้นของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด รวมทั้งประชาชนทั้งไทยพทธและมุสลิม ที่รักใคร่และชื่นชมในการทำงานของนายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม หรือ “นายกอาร์ม” ที่เต็มที่กับทุกงานในตำแหน่งสำคัญๆ ผลงานเป็นที่โดดเด่น ได้แก่ นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ 2 สมัย, นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาส 2 สมัย ,เจ้าของและผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลรือเสาะ, กรรมการวิทยาลัยชุมชนนราธิวาส ,ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มและบุกเบิกโรงงานแฮนด์ อิน แฮนด์ รือเสาะ ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ปัจจุบันกลายเป็นโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นและชุดกีฬาที่ได้รับความนิยมในราคาที่จับต้องได้ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้ตายที่ต้องการสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่
ข้อกังขาของสังคมใน จ.นราธิวาส ว่าอะไรคือชนวนเหตุนำมาสู่การสังหาร “นายกอาร์ม” อย่างเหี้ยมโหดและใครคือคู่ขัดแย้งที่ยื่นใบสั่งให้กลุ่มมือปืนทั้ง 4 คนบุกจู่โจมเสมือนเป็นชุดคอมมานโดเข้าไปจัดการเป้าหมายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ด้านแหล่งข่าวชุดสืบฯคดีสำคัญ ระบุว่า ตามที่ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภาค 9 ได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ปมสังหารตั้งไว้ 4 ประเด็น ทั้งการเมืองท้องถิ่น, ธุรกิจ, ขัดแย้งส่วนตัว และความมั่นคง ซึ่งอย่างหลังสุดไม่มีน้ำหนักมากพอ เท่าที่ทราบจากคนใกล้ชิด นายกอาร์มจะไม่มีคนขับหรือบอดี้การ์ดไม่ว่าจะไปไหนและกลับดึกแค่ไหนก็จะขับเองคนเดียว หากเป็นความมั่นคง ก็คงถูกยิงไปนานแล้ว ส่วนเรื่องธุรกิจที่ทำคือโรงเรียนอนุบาล ก็เปิดมานานมาก ไม่น่าจะมีปัญหาถึงขั้นต้องฆ่าแกงกัน ทำให้สองประเด็นที่พูดถึงมันอ่อนไป แต่ยังไม่ถึงกับต้องตัดออกเลย
“คดีนี้เป็นคดีสำคัญ เพราะผู้ตายมีหลายตำแหน่ง ติดใจตรงที่ใครจะมาผิดใจกับนายกอาร์ม เท่าที่เห็นคือนายกอาร์มจะพูดจาสุภาพอ่อนน้อม ไม่เคยเห็นท่านทำตัวกร่าง คดีนี้จึงต้องใช้ชุดสืบฯทั้งจาก ภ.จว., สภ.รือเสาะและภาค 9 ไล่เก็บรายละเอียดจากพยานบุคคลและวัตถุพยาน เพื่อจะได้ตัดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องออก ให้เหลือประเด็นสำคัญที่มีความเป็นไปได้สูง จะได้ง่ายต่อการหาตัวผู้บงการและกลุ่มมือปืนที่รับใบสั่งมา มีแนวโน้มว่าผู้สั่งฆ่าอาจจะยืมมือชุดคอมมานโดของกลุ่มขบวนการในพื้นที่จัดการแทนเพื่อกันพลาด ต้องใช้เวลา คาดว่าภายใน 7 วันนี้น่าจะชัดเจนขึ้น” แหล่งข่าวชุดสืบฯกล่าว
ขณะเดียวกันมีข้อมูลเพิ่มเติมจากคนใกล้ชิดนายกอาร์ม ว่า ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน สังเกตแกมีสีหน้าไม่สู้ดี เหมือนกังวลอะไรบางอย่าง เมื่อสอบถามแกบอกเพียงว่า ไม่มีอะไร เดี๋ยวก็เคลียร์ได้
