มหัศจรรย์แดนใต้ “พระนักปฎิบัติ” เป็นสะพานเชื่อมพุทธ-มุสลิม รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ทะลักเข้าร่วมงานฉลองอายุวัฒนมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 ครบรอบ 87 ปี แน่นวัด!!
วันนี้ (7 ม.ค.68) ที่วัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส คณะศิษยานุศิษย์ผู้เลื่อมใสศรัทธา พร้อมใจกันจัดพิธีฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 87 ปี 66 พรรษา “พระธรรมวัชรจริยาจารย์” ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ท่ามกลางผู้ที่เข้าร่วมพิธีทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมที่เลื่อมใสศรัทธา “เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา” มาอย่างเนิ่นนาน เป็นพระนักปฎิบัติที่มีจริยวัตรที่ดีงาม ได้ส่งเสริมและสนับสนุนทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฎิบัติ ส่งผลให้ “พระธรรมวัชรจริยาจารย์” กลายเป็นพระสงฆ์หนึ่งเดียวในพื้นที่ปลายด้ามขวาน ที่ทุกคนทุกศาสนาเลื่อมใสศรัทธา เป็นที่พึ่งทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั้งในและนอกพื้นที่ ซึ่งกระแสความเลื่อมใสศรัทธาแผ่ไกลไปถึงประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญ เป็นพระผู้นำความสามัคคีของประชาชนโดยไม่มีการแบ่งแยกศาสนา ทำให้ผู้นำศาสนาอิสลามและชาวไทยมุสลิมให้เกียรติ “เจ้าอาวาส” รูปนี้เป็นอย่างมาก
ซึ่งพิธีในวันนี้ ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส ได้เป็นประธาน รวมทั้ง นายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา, หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม โดย นายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ถวายพานบัวขาวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และ รองศาตราจารย์ นราพร จันทร์โอชา ภริยา นำถวาย “พระธรรมวัชรจริยาจารย์” ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 จากนั้น พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 20 รูป ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยมี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ กล่าวสัมโมทนียกถา ,พิธีถวายสักการะและแสดงมุทิตาจิต “พระธรรมวชิรจริยาจารย์” ซึ่งบรรยากาศภายในบริเวณพิธีเป็นไปอย่างอบอุ่น เนืองแน่นไปด้วยคณะศิษยานุศิษย์จากหลายพื้นที่ ที่ต่างพร้อมใจกันจัดงานพิธีฯอย่างยิ่งใหญ่ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 25 ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาใน “พระนักปฎิบัติ” ที่ถือเป็นกาวใจมหัศจรรย์ เชื่อมความสามัคคีของชาวพุทธ-มุสลิมให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้
หลังเสร็จสิ้นพิธีการ “พระธรรมวัชรจริยาจารย์” ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 ได้พบปะผู้เข้าร่วมงานทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 87 ปี 66 พรรษา ก่อนกล่าวว่า
“ขอบคุณทุกแรงกายแรงใจของทุกภาคส่วน ที่มีส่วนร่วมการจัดพิธีในวันนี้ ดีใจมากๆ ที่ได้เห็นความสมัครสมานสามัคคีของชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมเสมอมา ซึ่งเปรียบเสมือนแม่น้ำหลายสายที่ไหลเวียนมาบรรจบกัน แสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และเป็นสายใยแห่งความผูกพันธ์และความปรองดองระหว่างชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม ในสังคมพหุวัฒนธรรม ท่ามกลางความแตกต่างแต่ไม่แตกแยก”
ทั้งนี้ ภายในวัดประชุมชลธารา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการออกร้านของหน่วยงานราชการ และบรรดาชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมจากชุมชนต่างๆ ในพื้นที่มาออกบูธ จำนวน 91 บูธ มีทั้งอาหารคาวหวาน จากครัวไทยและครัวฮาลาล รวมทั้งอาหารพื้นถิ่นแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงานด้วยสำหรับ “พระธรรมวัชรจริยาจารย์” ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะ จำนวน 91 รูป ตามประกาศพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณสงฆ์ ในราชกิจจานุเบกษา หน้า 3 เล่ม 140 ตอนที่ 27 ข 29 มิถุนายน 2566 โอกาสนี้ “พระเทพศีลวิสุทธิ์” เป็น “พระธรรมวัชรจริยาจารย์ ไพศาลทักษิณศาสนประสิทธิ์ สุวินิตนรากรปัจจันตเขต พิเนตชลธาราวรกิจจาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี” พระราชาคณธชั้นธรรม สถิต ณ วัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส
