นายปฏิภาณ สุคนธมาน ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)หรือ GC กล่าว ในงาน ทิศทางอุตสาหกรรมไทยยุค New Normal Bio Circular Green สู่ Bio Hub of ASEAN ซึ่งจัดโดย เว็บไซต์ Biz Connext เว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในหัวข้อ กรณีศึกษาบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง BCG ว่า พลาสติก มีหลายประเภท ซึ่งส่วนใหญ่มากกว่า 80% ทำแพคเกจจิ้ง ในหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากมีคุณสมบัติเหมาะสม ขึ้นรูปง่ายราคาถูก มีอายุใช้งายืนนานมาก ใช้เวลา 400 ปี จะย่อยสลายตามธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อถูกใช้งานแต่ไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างดี ทำให้เกิดกรณีขยะไหลลงสู่ทะเล
หากการเก็บรวบรวมขยะและแยกขยะให้ถูกต้อง จะทำให้นำกลับมาใช้ได้อีก ซึ่ง GC ทดลองทำ 2-3 โมเดล เช่น เชียงรายโมเดล เก็บรวบรวมขยะที่อ.เชียงของ และขยายไปสู่อำเภอ อื่นๆ ในจังหวัด หรือบุรีรัมย์โมเดล ที่ทำรวบรวมขยะจากสนามกีฬาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและตลาดเซาะกราว รวบรวมขวดพลาสติกที่ถูกมองว่าเป็นขยะได้มากถึง 20 ล้านตัน นำมาผ่านกระบวนการ อัพไซคลิง” (Upcycling) ที่หมายถึง การนำสิ่งที่ดูไม่มีคุณค่ามาผ่านกระบวนการแปรรูปพร้อมใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไป เช่น การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ไม้เทียม เก้าอี้ที่สานจากพลาสติก แหและอวน ขวดพลาสติกที่ทำเป็นเสื้อ
ในส่วนของสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.ที่กระจายอยู่ทั่วประเภท อาจถูกพัฒนาให้เป็นจุดทิ้ง (Drop point)ของขยะ แล้วจัดระบบการแยก และขนส่ง เอามาส่งต่อที่ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ เพื่อดำเนินการต่อได้
นอกจากนี้ GC ยังออกมาตรฐาน GC Compostable ฉลากยืนยันวัตถุดิบ (Material Label) หรือฉลากส่งเสริมสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ที่บ่งบอกว่า สินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของผู้ประกอบการผลิตจากเม็ดพลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพ(Compostable Plastics) ที่ GC Group ผลิตหรือรับรองและสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของผู้ประกอบการต้องผลิตภายใต้กระบวนการที่ GC Group รับรองเท่านั้นออกมาตรฐาน GC Compostable ด้วย
