เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าเก๊ใช้บิลปลอมตบทรัพย์แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว ขู่ไม่จ่ายจะตัดไฟ สูญเงินหลายพันบาท

เตือนภัย พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไปที่ทำมาหากิน  เพราะขณะนี้มีมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมหาสารคาม  มาเก็บค่าไฟ  พร้อมขู่ว่าหากไม่จ่ายจะถูกตัดไฟ  ทำให้มีคนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อสูญเงินไปกว่า 3,000 บาท

นางสมัย  เจริญศิริ  อายุ 51 ปี  ซึ่งเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวหมู  และอาหารตามสั่ง  อยู่บริเวณถนนฉิมพลีเจริญ  ใกล้สำนักงานประปามหาสารคาม  เหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า และนำบิลใบเสร็จปลอม มาอ้างหลอกเงินรายนี้คือ โดยนางสมัย  โดยเธอเล่าว่า  เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา  เวลาประมาณ 17.30 น.  ขณะนั้นตนเองกำลังจะปิดร้าน  มิจฉาชีพได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้าน  พร้อมกับทำทีมาดูมิเตอร์ไฟฟ้าที่เสาไฟฟ้าข้างร้าน  จากนั้นก็เดินมาบอกกับตนว่า  ร้านพี่เสียค่าไฟเยอะเหมือนกันนะ  และกำลังจะถูกตัดไฟ  ตนเองก็งงว่าทำไมถึงมาตัดไฟเร็วจัง  เพราะเพิ่งจะเลยกำหนดชำระค่าไฟมาเพียงแค่ไม่กี่วัน  ซึ่งปกติค่าไฟที่บ้านของตนจะจ่ายเดือนละประมาณ 3,000 กว่าบาท  โดยมิจฉาชีพบอกว่าให้จ่ายเลย  ไม่อย่างนั้นหากถูกตัดไฟแล้วจะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง โดยคนร้ายยังบอกอีกว่าหากไม่เชื่อใจ  ให้ดูบัตรพนักงานการไฟฟ้า  เพราะคนร้ายก็มีบัตร  แต่ทราบภายหลังว่าเป็นบัตรปลอม  แต่ตนเองก็ได้แอบถ่ายรูปไว้  โดยรูปในบัตรระบุชื่อ  นายชาญณัชชฐ์  ทรัพย์มงคลชัย

จากนั้นก็หาเงินมาจ่ายค่าไฟฟ้าให้กับคนร้าย  ในราคา 3,490 บาท  พอตนหยิบเงินวางให้ 3,000 บาท คนร้ายก็รีบรวบเงินไว้ในมือ  ตนหยิบแบงค์ร้อยอีก 4 ใบ  แบงค์ยี่สิบอีก 4 ใบ  รวมเป็นเงิน 3,480 บาท  คนร้ายก็บอกว่าลดให้ 10 บาท  จากนั้นก็นำบิลที่ทำปลอมขึ้นมามอบให้ตน  และบอกว่าวันจันทร์จะเอาใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้ามาให้  แล้วก็ขับรถออกไปจากร้าน  ตนเองก็ปิดร้านจนเสร็จ  แต่ก็มีความรู้สึกไม่สบายใจ  นอนไม่หลับ  คิดว่าจะโดนหลอกรึป่าว  ตนเองก็เลยพูดคุยกับลูกสาว  เกรงว่าจะถูกหลอก  ต่อมาตนจึงได้เดินทางไปที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมหาสารคาม  เพื่อสอบถามว่ามีพนักงานคนนี้ทำงานอยู่ที่สำนักงานไฟฟ้าหรือไม่  ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีคนชื่อนี้ทำงานอยู่  จึงแน่ใจว่าถูกหลอกแล้ว

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าก็ให้ตนเขียนคำร้อง  ว่าเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้  และได้ขอบิลที่คนร้ายทำปลอมขึ้นไปไว้เป็นหลักฐาน  ซึ่งตนก็ได้มอบหลักฐานให้ทั้งหมด  เพื่อจะได้แจ้งเตือนคนทั่วไปไม่ให้หลงเชื่อเหมือนเป็นตน  ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้  ทำให้ตนเองต้องจ่ายเงินไป 3,480 บาท  และยังต้องเสียค่าไฟเดือนล่าสุดอีก 3,490 บาท  รวมแล้วต้องจ่ายเงินไปเกือบ 7,000 บาท