มหาสารคาม-นิสิตสาว ปลูกผักปลอดสารพิษส่งขาย หารายได้ส่งตัวเองเรียน เผยยึดหลักของพ่อหลวง ร.9 ปลูกผักสวนครัว 2 งาน เก็บขายได้ทุกวัน สร้างรายได้เดือนละ 30,000 บาท
ที่จังหวัดมหาสารคามวันนี้มีเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นกับเยาวชนต้นแบบ ที่มีหัวจิตหัวใจรักการเกษตรตั้งแต่ยังเด็ก น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 สามารถนำมาทำเป็นอาชีพสร้างรายได้เพื่อเป็นรายได้เลี้ยงดูครอบครัวและเป็นทุนส่งตัวเองเรียนได้ ด้วยการปลูกผักปลอดสาร ส่งขายตรงถึงร้านเรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลยครับ
ทุกเช้าตรู่จะมีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ขับขี่รถจักยานยนต์โดยด้านเบาะหลังจะมีตะกร้าที่บรรจุผักขนาดใหญ่ ขับตระเวนส่งผักตามร้านในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม และร้านค้ารอบ ๆ มหาวิทยาลัยมหาสารคามแถบตำบลขามเรียง และตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งจากการสอบถามทราบชื่อ ”น้องใบเตย” นางสาวปัญญาพร จันธิราช อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 1 บ้านเหล่าหนาด ตำบลดอนหว่าน อำเภอเมืองมหาสารคาม เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
”น้องใบเตย” เล่าให้ฟังว่า ก่อนเข้าเรียนทุกเช้าหรือมีออร์เดอร์ตามที่ลูกค้าสั่งจะตื่นเก็บผักที่ปลูกไว้ ตั้งแต่ 4 นาฬิกา แล้วนำมาล้างบรรจุถุงชั่งน้ำหนัก ส่งขายตรงให้กับร้านค้าที่สั่งจองผักโดยใช้วิธีการติดต่อสื่อสารกันทางไลน์ ระยะทางจากหมู่บ้านถึงร้านค้าที่ส่งผักเกือบ 30 กิโลเมตร ซึ่งไม่ถือว่าลำบากเนื่องจากตนเองครอบครัวมีฐานะยากจน จึงต้องดิ้นรน และใช้ชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ในช่วงวันจันทร์-วันศุกร์จะต้องส่งผักให้เสร็จก่อน 9 นาฬิกา จึงเป็นที่มาการปลูกผักส่งขายตรงให้กับร้าน เพราะเห็นว่าการปลูกผักเป็นการลงทุนน้อยอาศัยวัสดุที่มีอยู่ในพื้นที่ สามารถปลูกได้ เพราะผักปลูกง่ายกว่าพืชชนิดอื่น อายุเก็บเกี่ยวสั้นผลตอบแทนต่อไร่สูง ใช้พื้นที่ปลูกไม่ถึง 2 งาน สามารถเก็บผักขายได้ทุกวัน รายได้วันละ 1,000 บาท หรือเฉลี่ยมากกว่าเดือนละไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ซึ่งครอบครัวของตนก็ปลูกผักทานเองที่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามน้องใบเตย ก็ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกเกษตรกรรุ่นใหม่ ว่าผักชนิดไหน ปลูกง่าย โตเร็ว เก็บขายได้เร็ว โดยเลือกปลูกผักปลอดสารพิษ เช่น ผักบุ้ง ต้นคะน้า กวางตุ้ง หอม มะเขือเทศ โหระพา สารแน่ เป็นต้น หลังจากผักถึงอายุเก็บเกี่ยว น้องใบเตยจะเก็บผัก ล้าง และใส่ถุง ออกตระเวนส่งตามร้านส่วนรายได้จากการขายผัก จะเก็บออมไว้เป็นทุนการศึกษาส่งตนเองเรียน
หลังจากน้องใบเตย ปลูกผักออกตระเวนขายมาเป็นเวลาปีกว่า ก็สามารถเก็บออมที่จะนำเงินมาลงทุนขยายพื้นที่ปลูก และนำไปใช้จ่ายสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันเท่าที่จำเป็นและเก็บออมไว้ใช้ในอนาคต ซึ่งการได้ปลูกผักขายทำให้ตนได้เรียนรู้การทำธุรกิจและมองเห็นคุณค่าของเงิน ที่กว่าจะได้มาต้องใช้แรงกายและใจทำงานแลกมา นอกจากนี้น้องใบเตย ยังได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง ร.9 ในการดำเนินชีวิต โดยทุกกิจกรรมต้องทำให้เกิดความสมดุล มีสติและความเพียร” ซึ่งจะนำไปสู่ “ความสุข” ในการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: