มหาสารคาม – กรมการค้าภายในเดินหน้า เปิดหมู่บ้านค้าขายต้นแบบส่งเสริมและพัฒนาหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ ยกระดับมาตราฐานสินค้า สร้างรายได้ชุมชน
ที่บ้านห้วยทราย ต.นาเชือก อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดตัววิสาหกิจชุมชนภายใต้โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ ซึ่งบ้านห้วยทราย ต.นาเชือก เป็น 1 ใน 5 หมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ จากเดิม 20 หมู่บ้าน ต่อยอดพัฒนาองค์ความรู้ เพิ่มศักยภาพดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
นางสาวจันทร์ธิดา กลัมพากร ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาตลาดท้องถิ่น กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการ “หมู่บ้านทำมาค้าขาย” โดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 มีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพให้แก่วิสาหกิจชุมชนในการประกอบธุรกิจในทุกด้านอย่างแท้จริงทั้งด้านการตลาด การพัฒนาสินค้า การบริหารจัดการและขยายช่องทางการตลาด จนประสบความสำเร็จในการยกระดับชุมชนจนสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็ง ยั่งยืน โดยมีชุมชนเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 25 แห่ง โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าไหม-ผ้าฝ้ายบ้านห้วยทราย จังหวัดมหาสารคาม เป็น 1 ใน 5 หมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ ที่เข้าร่วมโครงการในปี 2563 โดยกรมค้าภายใน ได้เชิญ รศ.ดร.น้ำฝน ไล่สัตรูไกล ศิลปิน นักออกแบบสิ่งทอ เจ้าของรางวัล Designer of the Year มาช่วยออกแบบลายผ้าไหมรูปแบบใหม่ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ร่วมสมัย รวมทั้งประยุกต์เศษผ้าไหมเหลือใช้ให้เป็นกระเป๋าและเครื่องประดับ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับสินค้าให้ทันสมัยสวยงามตรงต่อความต้องการ เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชุมชน ตามนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง
ข่าวน่าสนใจ:
นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าไหมผ้าฝ้ายบ้านห้วยทราย ขึ้นชื่อว่ามีฝีมือเป็นเลิศด้านการทอผ้าไหมที่ยังสืบสานภูมิปัญญาด้านผ้าไหมที่ตกทอดมาหลายชั่วอายุคน เส้นไหมมีความเหนียว นุ่ม เงางาม ย้อมด้วยสีธรรมชาติจากต้นไม้ประจำท้องถิ่น มีลายผ้าที่ได้รับความนิยมคือ ลายสร้อยดอกหมาก เป็นลายเอกลักษณ์ประจำจังหวัด และลายปูแป้งห้วยทราย เป็นลายประยุกต์ แต่ยังประสบปัญหาในการแปรรูปเป็นเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขาย โดยกรมการค้าภายใน จึงเข้ามาช่วยติดอาวุธภูมิปัญญา ต่อยอดและพัฒนาศักยภาพด้านการตัดเย็บเสื้อผ้าให้กับชุมชนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งวัตถุดิบที่ปลูกขึ้นเองในพื้นที่ ปราศจากสารเคมีผ้าที่ได้จึงมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวคือ สวมใส่สบาย เบา ไม่หด นุ่ม เย็น พลิ้ว มีกลิ่นหอม เมื่อฟอกย้อมสีแล้ว เส้นไหมมีความเงา สวมใส่แล้วไม่คัน วัตถดิบที่ใช้ ตรงตามความต้องการของตลาด กรมการค้าภายในจึงเข้าไปช่วยติดอาวุธทางการค้า ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ เป็นการสร้างแบรนด์สร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชนตามนโยบายของรัฐ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: