มหาสารคาม – ความรุนแรงในโรงเรียนยังไม่จบ หลังโซเชียลแชร์ภาพสะเทือนใจอีกครั้ง เมื่อมีคลิปนักเรียนหญิงทำร้ายเพื่อนอย่างรุนแรงในห้องน้ำ ท่ามกลางหมู่เพื่อนที่มารุมล้อมดูและถ่ายคลิปเป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานที่เกิดเหตุเป็นโรงเรียนเดิม ที่เคยมีคลิปภาพความรุนแรงที่เด็กนักเรียนหญิง 3-4 คนยืนรุมล้อมทำร้ายร่างกายเด็กผู้หญิงสมาธิสั้นเรียนรู้ช้าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ด้าน สพฐ. และโรงเรียนเร่งแก้เชิญตัวทุกฝ่ายสอบด่วนแก้ปัญหา พร้อมวางมาตรการคุมเด็กอย่างใกล้ชิด
จากกรณีโซเชียลแชร์คลิปวีดีโอภาพความรุนแรงที่เด็กนักเรียนหญิงคน 3-4 คนยืนรุมล้อมเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่บริเวณมุมหลังห้อง จากนั้นมา 1 ในกลุ่มเด็กเข้ามาทำร้ายร่างกายเพื่อนที่นักเรียนที่นั่งอยู่กับพื้น ทั้งฉุดกระชาก จับร่างกดกระแทกพื้นและตบหน้า ต่อมาเพื่อน ๆ ในกลุ่มก็มาร่วมผสมโรงทำร้ายเพื่อนด้วยการใช้เท้าเตะเด็กผู้หญิง และตบหัวอย่างรุนแรง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นใน โรงเรียนประถมประจำอำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
ทั้งนี้จากคอมเมนต์ ของผู้ที่พบเห็นในโซเชียล ต่างรู้สึกสะเทือนใจและสงสารน้องที่โดนกระทำมาก อยากให้ผู้ปกครองเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และฝากหน่วยงานรัฐในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จัดการตามเรื่องด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง อึ้ง!! เด็ก-เยาวชนหลุดออกนอกระบบการศึกษากว่า 6 พันคน ศึกษาธิการตรังสั่งรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูล รับนโยบาย Thailand zero dropout
- นราธิวาส-สุดทน! พ่อค้าแม่ค้าร้อง ส.ส.นำเรื่องเข้าสภาฯ หลัง "บอสตลาดเก็นติ้ง" จัดหนัก! ปรับราคาเช่า-ต่อสัญญาสูงลิ่ว
- เพลิงไหม้โกดังกระดาษทิชชู่หวิดวอด โชคดีควบคุมเพลิงไว้ได้ทันก่อนลุกลามทั้งโกดัง
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โรงเรียนอนุบาลนครจัมปาศรี ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่เกิดเหตุที่ปรากฏในคลิปได้เรียกทั้งกลุ่มเด็กที่ทำร้ายเพื่อน และเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายมาพบและพุดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีนายอำเภอนาดูน ผอ.โรงเรียน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอนาดูน และเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็ก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.มหาสารคาม โดยเด็กหญิงที่ถูกเพื่อนทำร้าย นั้นเป็นเด็กมีอาการสมาธิสั้น ประเภทการเรียนรู้ช้า ซึ่งสาเหตุมาจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (28-02-67) น้องผู้หญิงที่ถูกทำร้าย ได้มาตามหาปากกาลบคำผิด แต่พวกกลุ่มเด็กอีกฝ่ายไม่ได้เอาไป จึงเกิดการทะเลาะวิวาท และด่าทอถึงบุพการี จนเกิดการทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งในการพูดคุยเจรจาและปรับความเข้าใจกัน สุดท้ายจึงจบลงด้วยการขอโทษกันและกันและให้ผู้ปกครองไปช่วยดูแลพฤติกรรมและเยียวยาเด็กที่ถูกทำร้ายอย่างใกล้ชิด
แต่ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (03-03-67) มีการแชร์คลิปการทำร้ายร่างกายกันในโรงเรียนอีกครั้ง ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งจากข้อมูลพบว่าสถานที่และนักเรียนที่ก่อเหตุทะเลาวิวาท เป็นโรงเรียนอนุบาลนครจัมปาศรีอีกครั้ง ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นห้องน้ำหญิง โดยในคลิป ปรากฎภาพนักเรียนเสื้อสีส้ม ได้ลงมือทำร้ายนักเรียนที่ใส่เสื้อสีเขียว ที่บริเวณในห้องน้ำ โดยมีนักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็ยืนดู ยืนมองอยู่ มีการส่งเสียงกันบอกให้คนที่ถูกตีนั้นสู้กลับ จะให้ถูกตุ๊บ ตุ๊บ อยู่ฝั่งเดียวไม่ได้ ตีให้มันแล้วๆ ไป ยังไงก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
ซึ่งคลิปล่าสุดนี้เป็นคลิปที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่มีคลิปแชร์ออกไปก็มีเสียงสะท้อนไปถึงโรงเรียนอนุบาลนครจัมปาศรีถึงเหตุการณ์ความรุนเรงในโรงเรียนที่เกิดขึ้น และถามถึงมาตรการณ์การดูแลนักเรียนภายในโรงเรียนแห่งนี้ และรู้สึกหดหู่กับคลิปที่ปรากฏซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากให้ทางโรงเรียนดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรงแบบนี้ในโรงเรียนอีก
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้(04-03-67) นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับทางโรงเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่ หน่วยงานในสังกัด ส.พ.ป.มหาสารคาม เขต 2 , กรมกิจการเด็ก สนง.พมจ.มค. จนท.รพ.นาดูน และคณะกรรมการสถานศึกษาเข้าร่วมหารือ เพื่อหาทางออกร่วมกัน
โดยนางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่โรงเรียนเพื่อตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผอ.โรงเรียนและคุณครูทั้ง 17 คน ต้องมีการวางมาตรการดูแลนักเรียนปกติและนักเรียนที่เป็นเด็กพิเศษใหม่ทั้งหมด โดยจะต้องมีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในลักษณะนี้อย่างใกล้ชิด ส่วนเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องชี้แจงให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้าใจถึงการมีส่วนร่วมในการดูแลบุตรหลาน จะต้องร่วมกันที่จะทำให้เด็กนักเรียนมีภูมิคุ้มกันที่จะทำให้มองว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำและอะไรคือสิ่งที่ไม่ควรทำ
ส่วนการดูแลนักเรียนจะแยกเป็นดูแลนักเรียนที่ถูกทำร้าย จะมีการเยียวยาจิตใจและจัดให้มีการเรียนการสอนอีกรู้แบบหนึ่งที่เหมาะสม ส่วนนักเรียนที่ทำร้ายเพื่อน และมีพฤติกรรมรุนแรงจะอบรมและดูแลพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดร่วมกับผุ้ปกครอง และสุดท้ายคือกลุ่มกองเชียรื หรือผุ้อยู่ในเหตุการณ์จะต้องมีการให้ความรู้ไม่เห็นความรุนแรงเป็นเรื่องปกติและช่วยยับยั้ง
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าคลิปทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีอยู่ในโรงเรียน ดังนั้นคุณครูและ ผอ.โรงเรียน ต่างไม่อยากให้เกิดขึ้นและรู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ถึง 2 ครั้ง ซึ่งจะให้ทางโรงเรียนได้แจงข้อมูลการดูแลนักเรียนขณะนั้นโดยระเลียดอีกทีและรายงานว่ากระบวนแก้ไขปัญหาหรือแนวทางต่างๆ ที่จะปรับเปลี่ยนเข้ามาที่กระทรวงฯ อีกด้วย
สำหรับการลงโทษนักเรียน ต้องเข้าใจว่าเวลาที่เราจะลงโทษอะไรนักเรียนต้องมีการคุยกันก่อนแล้วหาต้นตอของสาเหตุที่ชัดเจน รวมถึงเบื้องลึกของพฤติกรรมของเด็กคนนี้อยู่ในครอบครัวแบบไหน เราจะคุยแล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเขา ต้องดูความเหมาะสม เพราะอาจเป็นแผลระยะยาวที่จะตามมาได้ จึงจะให้พวกนักจิตวิทยา และสหวิชาชีพมาช่วยกัน แต่สิ่งที่สำคัญตอนนี้เราต้องดูแลสภาพจิตใจของนักเรียนนักเรียนทุกฝ่ายก่อน
ด้านนายประสาท ราชจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า นายประสาท ราชจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ทั้งนี้หลังจากที่ปรากฏคลิปอีกครั้ง ทางโรงเรียนได้ นำเด็กทั้งสองคน มาสอบถามข้อเท็จจริงซึ่งได้ทราบว่า เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทผิดใจกันระหว่างทั้งคู่และเป็นคลิปที่ถ่ายไว้นานแล้ว แต่มีการถ่ายภาพช่วงมีการทะเลาะกันไปลงโซเชียล ซึ่งเด็กนักเรียนนั้นรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ทั้งนี้หลังจากที่ถ่ายคลิปลงไปแล้วก็มีการนำคลิปไปโพสต์ต่อในโซเชียลเหมือนกับคลิปทั่ว ๆ ไป ซึ่งคิดว่าการอัพคลิปโหลดลงไปนั้นก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะเห็นผู้ใหญ่ มีการอัพโหลดคลิปความรุนแรงเช่นคลิปทะเลาะวิวาทกันอยู่ในโซเชียลบ่อยครั้ง จึงคิดว่าก็ทำได้เหมือนกัน จึงอยากจะลองดู ซึ่งพฤติกรรมนี้เป็นการเลียนแบบสังคม และสนุกในการมียอดไลท์ยอดแชร์ที่เพิ่มมาก
สำหรับในส่วนโรงเรียนก็จะหามาตรการ ดูแลพฤติกรรมเด็กนักเรียนอย่างใกล้ชิด ให้มากยิ่งขึ้น กำชับครูประจำชั้นให้จับตาดู หากเกิดความขัดแย้งระหว่างนักเรียนให้เร่งพูดคุยและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน นอกจากนี้จะมีการอบรมนักเรียนในโรงเรียนให้รู้จักถึงประโยชน์และโทษของโซเชียล และรู้ถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่จะอัพโหลดหรือเผยแพร่ ในสื่อสังคม Social ต่างๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: