บอย ศิริชัย แอน อรดี และอาร์ท อินทรสอน 3 ลูกทุ่งหมอลำใจบุญ ตัดสินใจสละร่าง บริจาคอวัยวะ “สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ” เผยเป็นกุศลใหญ่หลังสิ้นใจ
ที่ห้องประชุมตักสิลาชั้น 4 โรงพยาบาลมหาสารคาม ได้จัดกิจกรรม รณรงค์บริจาคอวัยวะสร้างกุศลผู้ให้สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ พร้อมเปิดตัวบอย ศิริชัย แอน อรดี และอาร์ท อินทรสอน 3 หมอลำลูกทุ่งใจบุญที่ตัดสินใจสละร่างกายสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ บริจาคดวงตาและอวัยวะ อาสาทำดีพร้อมเชิญชวน FC ช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังรอคอยความหวังการปลูกถ่ายอวัยวะ โดยบรรยากาศภายในงาน มีแพทย์พยาบาลและกลุ่ม FC มาร่วมยินดีและให้กำลังใจในกันเป็นจำนวนมาก
นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 7 รับผิดชอบดูแลระบบบริการสุขภาพในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดร้อยเอ็ด มุ่งมั่นที่จะให้บริการทางการแพทย์ที่ทันสมัย ในการรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะอวัยวะสำคัญล้มเหลวระยะสุดท้าย เช่น ผู้ป่วยไตวาย ตับวาย หัวใจล้มเหลว ให้มีโอกาสได้รับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ ปัจจุบันสถานการณ์การรับบริจาคอวัยวะของประเทศไทย ยังขาดแคลนอวัยวะที่จะนำมาปลูกถ่าย มีผู้บริจาคอวัยวะจำนวนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้รอรับอวัยวะที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี
และจากสถิติของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 พบว่ามีผู้รอรับการบริจาคอวัยวะ จำนวน 6,555 ราย ขณะที่มีผู้บริจาคเพียง 364 ราย และมีผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ 775 ราย ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้บริจาคอวัยวะจำนวนน้อย เนื่องจากประชาชนยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติและความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ และดวงตา จึงต้องมีการทำความเข้าใจเพื่อให้ประชาชนเห็นประโยชน์แต่การบริจาคที่จะทำให้ผู้จากไปได้ทำกุศลอันยิ่งใหญ่แก่เพื่อนมนุษย์เป็นครั้งสุดท้าย
โดยกิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากศิลปินผู้มีจิตอาสา คุณภู่กัน ปุริสาย (บอย ศิริชัย) คุณณิชนันทน์ อินทรสอน (แอน อรดี) และคุณอรรถชัย อินทรสอน (อาร์ท อินทรสอน) โดยทั้ง 3 ท่าน ถือเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง มีความสามารถ เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนทั้งประเทศ ทั้งยังเป็นคนที่มีจิตใจเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ และมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้แทนการประชาสัมพันธ์ (Presenter) เชิญชวนให้ประชาชนร่วมแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ และดวงตา เพื่อร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ จาก 1 ชีวิตที่จะสิ้นไปแต่ ได้มีชีวิตใหม่ถึง 8 ชีวิต ดังคำกล่าวที่ว่า “Give LIFE Get LIVES: สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ”
ด้าน บอย ศิริชัย ศิลปินนักร้องหมอลำชื่อดัง กล่าวว่า ตนรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสในการเสียสละเพื่อสร้างบุญ เพราะการมีอยู่ในวันนี้ได้ก็เพราะสังคมให้โอกาส สิ่งใดที่จะตอบแทนสังคมได้ เราก็พร้อมที่จะทำ โดยเฉพาะการที่คนเราจะจากไป ในวาระสุดท้าย ควรทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ไว้ข้างหลัง ร่างกายของตนเมื่อวันหนึ่งที่จะต้อง ดับสูญก็อยากให้ร่างนี้ได้เป็นประโยชน์ต่อผู้คนสามารถส่งต่ออวัยวะไปช่วยเหลือผู้ที่กำลังรอคอยความหวังได้ดังนั้นตนและภรรยาคือคุณแอนอรดีและน้องชายคืออาร์ต ใจเกินร้อย จึงได้พร้อมใจกันจับมือลงชื่อแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะพร้อมกันและนอกจากนี้ก็ได้เชิญชวนคนในบ้านและสมาชิกในวงมาร่วมกันบริจาคอวัยวะด้วยซึ่งถือเป็นการสร้างบุญกุศลยิ่งใหญ่ให้แก่พี่น้องที่ยังรอคอยความหวังในการปลูกถ่ายอวัยวะ ให้เขาได้กลับไป ใช้ชีวิต กับครอบครัวกับคนที่คนรักและทำประโยชน์เพื่อสังคมอีกครั้ง
ขณะที่อาร์ท ใจเกินร้อย นักร้องหมอลำรุ่นใหม่ชื่อดัง และเป็นน้องชายของแอนอรดี กล่าวว่า ตนและพี่สาวพร้อมพี่เขยคือคุณบอย ศิริชัย พร้อมคนในครอบครัวทั้งหมด รู้สึกยินดีที่ได้ทำกุศลอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งหลังจากที่พี่น้อง FC ของตนและพี่ บอย ศิริชัย แอน อรดี ตลอดจนคนในวงทราบ ก็ต่างพากันดีใจและสนับสนุนในกิจกรรมทำดีครั้งนี้ ซึ่งตนก็ได้เชิญชวนให้พี่น้อง FC มาร่วมกันบริจาคอวัยวะเพราะ 1 ชีวิต สามารถช่วยชีวิตพี่น้องที่กำลังรอคอยความหวังการปลูกถ่ายอวัยะได้ถึง 8 ชีวิต การได้บริจาคอวัยวะจึงถือเป็นความภูมิใจของตนมาก ๆ
สำหรับการบริจาคอวัยวะถือเป็นการสร้างประโยชน์และความสุขอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เรียกได้ว่าเป็นการให้ชีวิตใหม่ ให้ผู้ป่วยได้กลับคืนสู่สังคมด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ได้ดูแลครอบครัวและคนที่รัก อีกทั้งยังมีโอกาสได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป เป็นการสร้างกุศลครั้งยิ่งใหญ่ของผู้บริจาค สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ โดยประชาชสามารถติดต่อบริจาคอวัยวะได้ทางออนไลน์ www.organdonate.in.th หรือhttps://eyeorgandonate.redcross.or.th/ และ แอปพลิเคชัน “บริจาคดวงตา-อวัยวะ” หรือผ่านแอปพลิเคชัน และ Line OA “หมอพร้อม”
ในส่วนบริจาคผ่านเครือข่ายฯ สามารถติดต่อได้ที่ โรงพยาบาลประจำจังหวัดในสังกัด กระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลในสังกัดสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สำนักเหล่ากาชาดจังหวัด ทุกจังหวัด
