มหาสารคาม – เกิดเหตุไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลังรับปีใหม่ แม่คาดลูกชายสติไม่ดีก่อเหตุ ช่วงออกไปซื้อขนมจีนมาให้กิน เบื้องต้นเสียหายมั้งหลังมูลค่ารวมกว่าสองแสนบาท
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2562 ศูนย์วิทยุ 191 จ.มหาสารคามได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้ 2 ชั้นที่บ้านติ้ว ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม จึงแจ้ง ร.ต.อ เอกชัย ทะสา ร้อยเวรฯ สภ.เมืองมหาสารคาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอบต.แวงน่าง หน่วยกู้ภัยจีเสียงเกาะ หน่วยดับเพลิงเทศบาลเมืองมหาสารคาม และพื้นที่ใกล้เคียงรวม5 คัน รุดไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านของนางนางสุธิดา อ้นไหว อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 21/4 ม.24 บ้านติ้ว ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม เนื่องจากบ้านเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้ ประกอบกับมีลมกระโชกแรงจึงทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วและรุนแรง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบ แต่ยังคงต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้เพื่อป้องกันเพลิงลุกลามขึ้นมาอีก โดยสภาพบ้านเสียหายทั้งหลัง ซึ่งในบ้านได้มีอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด เช่นตู้เย็น ทีวี หม้อหุงข้าว พร้อมเงินสด 1,000 บาท คาดว่าความเสียประมาณ 2แสนบาท
ร.ต.อ เอกชัย ทะสา ร้อยเวร สภ.เมืองมหาสารคามเปิดเผยว่า จากการพูดคุยนางสุธิดา อ้นไหว เจ้าของบ้านเบื้องต้นทราบว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเกิดจากลูกชาย คือนายทศพล พลไทสงค์ อายุ 24 ปี ซึ่งสติไม่สมประกอบ ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งชอบดื่มสุรา ในช่วงเกิดเหตุมีคนพบลูกชายเดินออกจากบ้านหลังดังกล่าว แล้วเกิดไฟไหม้ขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายเคยขู่ว่าจะฆ่าพ่อ ทำให้พ่อหนีไปทำงานที่อื่น นางสุธิดา จึงอยู่กับลูกชายเพียงสองคน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ด้านนางสุธิดา อ้นไหว เจ้าของบ้าน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนเองได้อาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน ส่วนพ่อหนีไปทำงานที่ จ.ระยอง เนื่องจากมีปากเสียงกับลูกชายบ่อยครั้ง เมื่อลูกชายเมาสุราจะอาละวาดและเกือบถึงขั้นทำร้ายพ่อและเคยทำลายข้าวของในบ้านหลายครั้ง ซึ่งก่อนเกิดเหตุลูกชายได้มาถามตนว่าทำไมไม่ออกไปข้างนอก และทำท่าทางแปลก ๆ ถามตนวนไปมาหลายครั้ง จนเมื่อตนได้ออกไปซื้อขนมจีนมาให้ลูกชายเพื่อรับประทานซึ่งร้านอยู่ไม่ไกลนัก ผ่านไปไม่นานก็เหลียวเห็นกลุ่มควันขึ้นที่บริเวณบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านพบควันไฟพวยพุ่งออกจากบ้าน แต่ไม่พบลูกชาย มีเพียงเพื่อนบ้านพบลูกชายรีบวิ่งออกจากตัวบ้านหนีไปยังทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ตนจึงเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันดับไฟ ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยเหลือดังกล่าว ส่วนทรัพย์สินไม่ได้นำติดตัวมาแม้แต่ชิ้นเดียว
