มหาสารคาม – ชัชชาติ แกนนำพรรคเพื่อไทยขึ้นปราศรัยใหญ่ เปิดตัวผู้สมัคร สส.เพื่อไทยมหาสารคาม พร้อมปลุก คนอีสานไม่เอาเผด็จการในคราบประชาธิปไตย ขอคนไทยเลือก 375 ที่นั่งเพื่อเป็นรัฐบาล
ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยจังหวัดมหาสารคาม เขต 3 ถนนพยัคฆภูมิพิสัย-พุทไธสง ต.ปะหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษก พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาพบปะพี่น้องประชาชนเขตเลือกตั้งที่ 3 เพื่อช่วยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. มหาสารคาม เขต 3 โดยมีประชาชนมารอต้อนรับกว่า 2,000 คน
โดยในช่วงเช้า นายชัชชาติและคณะ ได้เดินทางไปกราบนมัสการพระบรมธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ก่อนจะลงพื้นที่พบปะเพื่อรับฟังปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลพยัคฆภูมิพิสัย ก่อนจะเดินทางมาปราศรัยบนเวทีใหญ่ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขต 3 โดยได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ เขต 2 นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ เขต 3 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เขต 4 นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ และเขต 5 นายสุทิน คลังแสง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พี่น้องในจังหวัดมหาสารคาม ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งผลผลิตปีนี้ไม่ดี บางคนนา 10 ไร่ ได้ข้าว 3 กระสอบ นอกจากไม่พอขายแล้วยังไม่พอกินอีกด้วย ซึ่งแนวทางพรรคเพื่อไทยเมื่อเป็นรัฐบาลจะเข้าไปแก้ 3 ปัญหาแรกของพี่น้องเกษตรกร คือ เรื่องราคา ผลผลิตต่อไร่ และต้นทุน จะทำอย่างไรให้ต้นทุนต่ำลงแต่ได้ผลผลิตสูงขึ้น รัฐบาลจะต้องช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้
ทั้งนี้อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย พี่น้องประชาชนมีปัญหาเรื่องน้ำ เรื่องชลประทาน ภาครัฐต้องเพิ่มบ่อน้ำ ขยายพื้นที่ชลประทาน ทำบ่อบาดาลให้พี่น้องประชาชนมีน้ำใช้เพื่อบำรุงและเพิ่มผลผลิตได้ อีกเรื่องคือเรื่องต้นทุน ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมัน เราจะดูตรงนี้เพื่อลดภาระเกษตรกร ขอให้ไว้ใจพรรคเพื่อไทย เมื่อเกษตรกรปลูกข้าว ต้องมีอาชีพเสริม เราจะเปลี่ยนเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการ สามารถทำมาค้าขายได้ ไม่ต้องพึ่งคนกลาง และเราจะมีความอยู่ดีกินดี
อีกเรื่องหนึ่งคือด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะโรงพยาบาล จากที่ลงพื้นที่เมื่อเช้านี้ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลพยัคฆภูมิพิสัย คุณหมอที่โรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัยบอกว่า ชาวบ้านได้โครงการ 30 บาท มาช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นเยอะมาก หากเป็นเมื่อก่อนชาวบ้านเวลาไม่สบายจะไม่กล้ามาหาหมอ แต่พอมีโครงการ 30 บาท ชาวบ้านกล้าเข้าโรงพยาบาลมากขึ้น แต่ยังมีปัญหาความไม่เท่าเทียมของการเข้าถึงบริการ โรงพยาบาลที่สร้างใหม่ก็มีแต่ตึก แต่ไม่มีเครื่องมือทางการแพทย์ ในขณะที่โรงพยาบาลเมืองใหญ่มีอุปกรณ์พร้อมแต่แออัด ทำยังไงถึงจะกระจายคนป่วยออกไปให้รับบริการที่ไหนก้ได้ คุณภาพเท่ากันดีเหมือนกันหมด ทั้งนี้ตนมองว่าในอนาคตโรงพยาบาลแต่ละอำเภอต้องมีศักยภาพ มีความสามารถดูแลคนป่วยให้ได้ เพื่อความเท่าเทียมกันในการรักษาทั้งประเทศ
ทั้งนี้ 4 ปีที่ผ่านมาถามว่ามีใครมาดูแลเราหรือไม่ แต่พอจะเลือกตั้งก็มีนโยบายต่าง ๆ ออกมา ขอให้พี่น้องอย่าสับสน เราเคยพิสูจน์มาแล้วว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาได้ ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง ปัจจุบันมีคนแอบแฝงมาในคราบประชาธิปไตย ยกเรื่องของการเลือกตั้งมาหลอกเรา ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องพูดได้ มีสิทธิ์มีเสียง ไม่ใช่พูดอะไรออกไปไม่ได้เลย ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน และต้องย้ำอีกครั้งว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้แพ้ไม่ได้ พรรคเพื่อไทยจะมีคะแนนเสียง 250 เสียงไม่พอ ต้องได้อย่างน้อย 375 เสียง ทุกคนจะต้องช่วยกัน ช่วยระบบประชาธิปไตยให้ไปรอด และที่สำคุณ คือ ระวังพวกไม่ได้เลื่อมใสประชาธิปไตยแต่เอาการเลือกตั้งมาเป็นทางลัดเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะทำให้ระบบประชาธิปไตยต้องถอยหลังไปอีก 30 40 ปี ฉะนั้นครั้งนี้ขอให้พี่น้องออกไปเลือกตั้ง เลือกคนที่มีจิตวิญญาณเป็นประชาธิปไตยให้ชนะเป็นเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
และหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นอาจจะเกิดซ้ำขึ้นมาอีก หากถามว่ากังวลหรือไม่ ตนเองมองว่าเราต้องอยู่ด้วยความหวัง ไม่ได้อยู่ด้วยความกลัว เพราะเรามีบทเรียนที่ผ่านมาหลายหนแล้ว ทุกคนมีบทเรียนร่วมกัน หลายคนเข้าใจเนื้อหาด้วยกัน สังคมไม่ได้แบ่งเป็นขั้ว ในอนาคตทุกคนต้องร่วมมือกัน ประชาธิปไตยคือการยอมรับในเสียงส่วนใหญ่ และเดินไปข้างหน้าด้วยกัน มันหมดยุคที่จะต้องแยกเป็นสีเป็นฝักเป็นฝ่าย อนาคตประเทศไทยไปได้ และต้องไปด้วยความสามัคคี ไปด้วยความหวังไม่ใช่ความกลัว เรามีบทเรียนจากอดีต ลืมเรื่องเก่า มองอนาคต คนไทยมาสวมเสื้อตัวเดียวกัน เสื้อประเทศไทย ร่วมมือร่วมใจกันดีกว่า
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: