มหาสารคาม – เครือข่ายนิสิตฯ ออกแถลงการณ์ปกป้อง น้องแบม น.ส.ปนิดา ยศปัญญา นิสิต ม.มหาสารคาม กรณีออกมาแฉการปลอมแปลงเอกสารทุจริตเงินผู้ยากไร้ พร้อมยกย่องน้องแบมเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ผู้กล้าทำความดี
จากกรณีนิสิต ม.มหาสารคาม วิชาเอกพัฒนาชุมชน เข้าฝีกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ระหว่างฝึกงานถูกสั่งให้ ปลอมลายมือชาวบ้านเพื่อเซ็นรับเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ติดเชื้อ HIV เมื่อร้องเรียนอาจารย์ที่ปรึกษากลับถูกตำหนิและให้ไปกราบขอโทษคู่กรณี
ภายหลังอาจารย์ยืนยันไม่ได้สั่งให้เด็กกราบ เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งนำข้อความในแชทยืนยัน
นอกจากนี้ยังแจงกระบวนการตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัย ไม่สามารถเปิดเผยแก่สาธารณะได้ เพราะเอกสารจาก ปปท.และ ปปช. สั่งให้สอบสวนในทางลับซึ่งคาดว่าภายใน 7 วันจะส่งเรื่องและหลักฐานทั้งหมดให้ให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ และส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป
ล่าสุด กลุ่มเครือข่ายนิสิตเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรม ได้ออกแถลงการณ์ เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจ แก่ น.ส.ปนิดา ที่ออกมาเปิดโปงการทุจริตในเรื่องดังกล่าว โดยหนึ่งในตัวแทนกลุ่มเครือข่ายนิสิตเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรมได้ออกมาให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าว โดยได้วิจารณ์ถึงการปกป้องคุ้มครองนิสิตต่อกรณีนี้ ไม่เหมาะสม โดยประธานหลักสูตรและอาจารย์ที่ปรึกษาฝึกงาน มีการนำนิสิตไปไกลเกลี่ยกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ที่เป็นผู้กระทำผิด และยังกล่าวว่านิสิตกุุเรื่องขึ้นมาเพื่อโกหก และยังบังคับในนิสิตขอโทษซึ่งเท่ากับเป็นการบังคับให้ยอมรับว่านิสิตเป็นผู้เข้าใจผิด
ต่อมาในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 อาจารย์ที่ปรึกษาการทำพัฒนานิพนธ์และประธานหลักสูตร ได้มีการเรียกประชุมนิสิตชั้นปีที่ 1-3 ของสาขา มีการสั่งห้ามไม่ให้นิสิตแชร์ข่าว แต่กลับปล่อยให้นิสิตบางกลุ่มโพสต์แสดงความคิดเห็นในลักษณะหมิ่นประมาทและโจมตีน.ส.ปนิดา อย่างไม่เป็นธรรม ทางกลุ่มเครือข่ายนิสิตเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรมจึงมีข้อเรียกร้องต่อผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้นดังนี้
1.เหตุใดอาจารย์คนดังกล่าวจึงไม่ให้นิสิตดำเนินการลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นการป้องกันนิสิต ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนิสิตในภายหลังหากว่ามีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่กลับนำนิสิตไปไกลเกลี่ย และมีการบังคับให้นิสิตขอขมาคู่กรณี
2.การเรียกนิสิตมาสอบสวนและกระบวนการสอบสวนโดยคณะ ใช้อำนาจถูกต้องหรือไม่ ให้ความเป็นธรรมกับนิสิตหรือไม่ และมีการละเมิดสิทธิหรือคุกคามนิสิตหรือไม่
3.การสั่งห้ามไม่ให้นิสิตชั้นปีที่ 1-3 เผยแพร่และแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เลขานุการภาควิชาแชร์ข้อความในเชิงโจมตี เป็นการละเมิดสิทธิของนิสิตหรือไม่
4.ให้มีกลไกในการคุ้มครองสิทธินิสิตคนดังกล่าวทุกกรณี เนื่องจากกำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 อาจมีการใช้อำนาจหน้าที่ในการพิจารณาผลการเรียน อีกทั้งป้องกันไม่ให้มีการใช้อำนาจหน้าที่ละเมิดสิทธินิสิตคนดังกล่าวอีก
ดังนั้นกลุ่มเครือข่ายนิสิตเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรม จึงขอประกาศจุดยืนเพื่อไม่ให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์คณะ และมหาวิทยาลัยในด้านลบ และขอให้มีการตรวจสอบให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อนางสาวปณิดา ยศปัญญา รวมทั้งเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคมในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
นอกจากนี้กลุ่มตัวแทนเครือข่ายนิสิตเพื่อปกป้องสิทธิและความยุติธรรม ได้กล่าวให้กำลังใจการออกมาต่อสู้ของน้องแบม โดยนำความจริงมาเปิดเผยและเดินเรื่องในกระบวนการยุติธรรมอย่างกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวอิทธิพล เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและพยายามให้การช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ติดเชื้อHIV ได้รับเงินช่วยเหลืออย่างที่ควรจะได้ ถือเป็นแบบอย่างแก่นิสิต ม.มหาสารคาม ที่กระทำความดีเพื่อสังคมอย่างแท้จริง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: