มหาสารคาม-สืบสานประเพณีโบราณ จัดบุญหลวงนมัสการสมโภช สรงน้ำ ปิดทองพระพุทธกันทรวิชัยอภิสมัยธรรมนายก และแห่ดอกไม้บุญเดือน 5 พร้อมรำถวายพระพุทธกันทรวิชัย ด้วยนางรำ 1,050 คน
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดงานนมัสการ สรงน้ำ ปิดทอง พระพุทธกันทรวิชัยอภิสมัยธรรมนายก และแห่ดอกไม้บุญเดือน 5 ประจำปี 2561 ขึ้น ณ หอพระพุทธกันทรวิชัยอภิสมัยธรรมนายก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ในเมือง โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระเจ้า 5 พระองค์ นำไต้ประทีป ประกอบพิธีเทศน์เสียงพระเจ้า 5 พระองค์
ต่อมาได้มีขบวนแห่น้ำ แห่ดอกไม้และเครื่องสักการะแต่ละคณะ / หน่วยงาน ขบวนนางรำ โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ และขบวนกลองยาวศิลป์อีสาน เข้าสู่ประรำพิธีบริเวณหอพระ มีการอัญเชิญพระพุทธกันทรวิชัยเข้าสู่หอสรง คณะผู้บริหาร บุคลากร นิสิตและนักเรียนร่วมสรงน้ำปิดทองพระพุทธกันทรวิชัยฯ
จากนั้นคณะนางรำซึ่งประกอบด้วยชาวมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จำนวน 1,050 คน ได้ร่วมใจรำถวายพระพุทธกันทรวิชัยและรำเฉลิมฉลอง 50 ปี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อให้เกิดสวัสดิพิพัฒน์มงคล สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เททอง และพระราชทานนามพระพุทธรูป อันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวมหาวิทยาลัยมหาสารคามและชาวจังหวัดมหาสารคามทุกหมู่เหล่า
สำหรับพระพุทธกันทรวิชัยอภิสมัยธรรมนายก เป็นพระพุทธรูปสิ่งศักดิ์และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งได้แนวคิดการสร้างพระเกิดขึ้น จากการศึกษาค้นคว้ารูปแบบจากพระพิมพ์ดินเผาซึ่งปรากฏพบอยู่ในภาคอีสานหลายแห่ง ท้ายสุดได้มีความเห็นร่วมกันว่าควรใช้พระพิมพ์ดินเผาที่ขุดพบที่อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เป็นแม่แบบ เนื่องจากมีพุทธลักษณะงดงามและมีความหมายทางพุทธธรรมลึกซึ่ง อนึ่งพระพิมพ์ดินเผากันทรวิชัยนี้เป็นพิมพ์ขัดสมาธิเพชร ประทับนั่งบนฐานดอกบัวแบบพุทธนิกายมหายาน สันนิษฐานว่าเป็นศิลปะแบบทวารวดีที่ได้รับแบบมาจากศิลปะสมัยปาลวะหรือคุปตะจากอินเดียในราวปลายพุทธศตวรรษที่ 13 โดยถูกขุดพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2514 ที่บ้านโนนเมือง ตำบลคันธาราษฏร์ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯได้เสด็จมาที่ มศว.มหาสารคาม พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารีเพื่อทรงเททองหล่อพระพุทธรูป โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสนมหาเถระ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นอกจากนี้ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯพระราชทานนามว่า “ พระพุทธกันทรวิชัยอภิสมัยธรรมนายก” และพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ “ภปร” ประดับบนผ้าทิพย์ด้านหน้าขององค์พระ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: