อ่างทอง- สองผัวเมียใจบุญชาวอ่างทอง วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือหลังเลี้ยงสุนัขและแมวเกือบ 100 ชีวิตไว้ที่บ้านมานานกว่า 30 ปี แต่ปัจจุบันถูกเพื่อนบ้านโวยว่าสุนัขส่งเสียงดัง ร้องเรียนส่วนราชการ ถูกสั่งย้ายสุนัขและแมวภายใน 10 วัน หากไม่ดำเนินการถูกปรับ
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (17 มิ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบยังบ้านเลขที่ 93 หมู่ 8 ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของนายประสาทพร พลพิภพ อายุ 63 ปี และนางชุติมา นิ่มปานฝ้าย อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา หลังถูกเพื่อนบ้านร้องเรียนกรณีที่เลี้ยงสุนัขและแมวจำนวนมาก ซึ่งสุนัขส่งเสียงดังก่อให้เกิดความรำคาญ และต่อมาทางหน่วยงานภาครัฐเข้าตรวจสอบและให้ทำการขนย้ายสัตว์ออกนอกพื้นที่ โดยให้เวลาในการหาที่อยู่และขนย้ายเพียง 10 วัน โดยเมื่อเดินทางไปถึงพบว่าบ้านดังกล่าวเป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียว มีการปิดประตูและล้อมรั้วด้วยเหล็กรอบบริเวณ เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงได้พบกับนายประสาทพร โดยนายประสาทพรได้เปิดบ้านให้เข้าไปดู โดยพบว่าบริเวณหน้าบ้านได้ถูกทำเป็นคอกสุนัขขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 8 เมตร มีสุนัขอาศัยอยู่หลายตัว ส่วนในบริเวณบ้านได้มีการกั้นไว้บางส่วนสำหรับให้แมวอาศัย โดยสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านทั้งสิ้น 26 ตัว และแมวอีก 50 ตัว
จากการสอบถามนางชุติมา กล่าวว่า เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ตนและสามียังไม่มีบ้านแบบนี้ ตอนนั้นสามีทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในละแวกหมู่บ้าน ซึ่งตอนนั้นพักอยู่หอพักของโรงงาน ซึ่งตนและสามีนั้นเห็นสุนัขและแมวถูกวางยาเบื่อบ่อย เห็นแล้วก็สงสารจึงเก็บมาเลี้ยงไว้ที่หอพัก ต่อมาเก็บเงินซื้อที่ปลูกบ้าน ซึ่งเป็นบ้านหลังปัจจุบัน ตนก็นำสุนัขและแมวมาเลี้ยงที่บ้านด้วย โดยตอนนี้มีจำนวนมากกว่าปัจจุบันอยู่มาก ก็เลี้ยงมาตั้งแต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีบ้านคนสักเท่าไหร่ จนตอนนี้มีบ้านคนเยอะมากมาย ก็อาจมีคนไม่พอใจเสียงร้องเสียงเห่าและเสียงหอนของสุนัขที่ตนเลี้ยงไว้ จึงไปร้องเรียนดังกล่าว
ด้านนายประสาทพร กล่าวว่า ที่บ้านนี้ตนอาศัยอยู่กับภรรยาที่พิการตาบอด 1 ข้าง และลูกชายพิการอีก 1 คน ซึ่งมาปลูกบ้านไว้นานมากแล้วตั้งแต่ยังเป็นบ้านหลังโดด ๆ ไม่ค่อยมีบ้านคนสักเท่าไหร่ โดยตอนนี้เลี้ยงสุนัขไว้จำนวน 26 ตัว และแมว 50 ตัว เลี้ยงมาแบบนี้เป็นเวลากว่า 30 ปี แล้ว ซึ่งสุนัขและแมวที่เห็นนี้ตนไม่ได้ซื้อหามาจากไหนเลย ไปเจอที่ไหนน่าสงสารถูกทิ้งไว้ ก็เก็บมาเลี้ยงด้วยความเวทนา สงสาร ตนเลี้ยงมาโดยใช้เงินเดือนของตนทั้งสิ้น ไม่เคยได้ไปขอจากใครเลย ต่อมาทางสำนักงานเทศบาลโพสะ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาหาที่บ้าน โดยบอกว่าทางเทศบาลได้รับการร้องเรียนมาว่าสุนัขที่ตนเลี้ยงไว้นั้นได้ส่งเสียงดังก่อให้เกิดความรำคาญกับเพื่อนบ้าน ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงเหตุผลไปแล้ว แต่ล่าสุดเมื่อ 2 วันก่อน ทางอำเภอเมืองและทางสำนักงานปศุสัตว์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาพูดคุยกับตนอีก เกี่ยวกับเรื่องที่สุนัขส่งเสียงดัง โดยทางหน่วยงานราชการได้สั่งให้ตนขนย้ายสุนัขและแมวไปอยู่ที่อื่น และแนะนำให้นำไปไว้ยังสถานกักกันที่จังหวัดสระแก้ว โดยให้เวลาเวลาเพียง 10 วัน ในวันที่ 23 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ต้องดำเนินการขนย้ายสุนัขและแมวให้แล้วเสร็จ หากไม่ดำเนินการจะมีการเรียกปรับเงิน
นายประสาทพร กล่าวต่อว่า ทั้งสุนัขและแมวที่ตนเลี้ยงนั้น ตนเลี้ยงมาอย่างดี มีการให้อาหารอย่างดี ฉีดยาและวัคซีนให้ทุกตัว สถานที่เลี้ยงตนก็ทำเป็นรั้วรอบขอบชิด มีการกำจัดมูลของสุนัขและแมวอย่างดี เลี้ยงมาเราก็รัก ไม่อยากให้ไปอยู่ที่ไหนเลยสักตัวเดียว มันเป็นความผูกพัน หากจะต้องจากกันก็ขอจากกันไปตามกาลเวลา ล้มหายตายจากกันไปดีกว่า ซึ่งหลังจากตนรับการประสานจากทางหน่วยราชการ ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยไปหาเช่าที่ดินได้แล้ว โดยไปหาเช่าที่ได้ห่างไกลบ้านเรือนประชาชน มีขนาดพื้นที่จำนวน 2 ไร่ เขาคิดค่าเช่าเดือนละ 2000 บาท ซึ่งตนก็ตกลงว่าจะไปเช่า แต่ตอนนี้ด้วยเวลาที่มีจำกัด ประกอบกับการที่จะย้ายออกไปต้องไปทำโรงเรือน ทำคอก เป็นสถานที่พักพิงให้พวกสุนัขและแมวอยู่กัน แต่ตอนนี้ตนยังตั้งไม่มีทุนทรัพย์ เพราะในการออกไปสร้างที่อยู่ในสุนัขและแมวของตนนั้น ต้องใช้ทุนทรัพย์อีกจำนวนมาก ตนก็อยากวิงวอนฝากไปถึงผู้ใจบุญทั้งหลายที่มีใจรักสัตว์ หากใครสงสารสุนัขและแมว ตนอยากขอรับบริจาควัสดุก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นอิฐ หิน ปูน ทราย หรือเป็นเงินในการก่อสร้าง ตนก็อยากบอกบุญเพื่อมาร่วมด้วยช่วยกัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูสุนัขและแมว รวมถึงค่าเช่าที่นั้น ตนยังสามารถรับผิดชอบได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบถามนายประสาทพรกับภรรยานั้น ทั้งคู่ยืนยันว่ายังรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูสุนัขและแมวที่เลี้ยงไว้ได้อยู่ แต่ในการขนย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ต้องไปทำโรงเรือน คอก เป็นสถานที่พักพิงให้สุนัขและแมว ต้องใช้ทุนทรัพย์ในการก่อสร้างอีกจำนวนมาก ซี่งผู้ใจบุญท่านใดที่สงสารสุนัขและแมวอยากร่วมทำบุญ หรือมีวัสดุก่อสร้างจะบริจาคทำสถานที่พักพิงให้สุนัขและแมว สามารถติดต่อคุณประสาทพรได้โดยตรงที่เบอร์ 084-4009020
