อ่างทอง-หนุ่มบางกอกขับฮอนด้า ฟรีด อัดท้ายรถพ่วงบาดเจ็บติดคาซากรถกู้ภัยเร่งตัดถ่างช่วย
เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันนี้ (24 มิ.ย. 61) พ.ต.ท.นิกร คำภูเขียว รอง ผกก.สส.สภ.ป่าโมก รับแจ้งเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลชนท้ายรถพ่วง มีผู้บาดเจ็บถูกอัดติดอยู่ภายในรถ เหตุเกิดบนถนนสายอ่างทอง-อยุธยา หมู่ที่ 6 ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยทีมกู้ชีพโรงพยาบาลป่าโมก และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบนถนนพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า ฟรีด สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กฉ-7417 กรุงเทพฯ ชนอัดติดท้ายรถพ่วงยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 83-0942 นครสวรรค์ หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 83-0943 นครสวรรค์ ภายในรถฮอนด้าบริเวณเบาะคนขับมีผู้บาดเจ็บถูกอัดติดอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างผู้บาดเจ็บออกจากรถ ซึ่งในการนำผู้บาดเจ็บออกมาเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีอาการโวยวาย พูดจาไม่รู้เรื่อง และไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยเมื่อนำออกมาจากรถได้พบผู้บาดเจ็บมีแผลฉีกขาดที่เข่าซ้าย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าโมก ทราบชื่อต่อมาคือ นายธนสินธุ์ กันติรัตนาวงศ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 571/29 ถนนวัดจันทร์ใน แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
จากการสอบสวนนายภูวเรศ เดชบุญ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/1 หมู่ 7 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร คนขับรถพ่วงกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถพ่วงไปบรรทุกทรายที่บ่อทรายแห่งหนึ่งใน ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง มุ่งหน้าจะไปส่งให้ลูกค้าที่ไซต์งาน ระหว่างที่ขับมาใกล้จะถึงที่เกิดเหตุตนได้เห็นรถพ่วงจอดอยู่ริมถนน ตนจึงได้เปิดไฟเพื่อจะหลีกขึ้นมา ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงดังโครม เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ตอนแรกตนเข้าใจว่ารถตนยางแตก แต่เมื่อหันขวามาก็พบว่ามีชิ้นส่วนไฟรถกระเด็นผ่านหน้าตนไป ตนจึงได้จอดรถและลงมาดู ก็พบว่ารถฮอนด้าคันดังกล่าวชนอัดติดท้ายตนอย่างแน่น ก่อนประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบมีรอยชนและรอยคล้ายรอยเบรกหรือรอยลากยาวเกือบ 30 เมตร สอบถามคนขับรถพ่วงทราบว่าขับรถมาแล้วเจอรถพ่วงอีกคันจอดอยู่ริมถนนจึงเปิดไฟหลีกออกมา เพียงแค่เดียวรถเก๋งก็พุ่งชนอัดท้ายอย่างจัง ส่วนคนขับรถเก๋งนั้นเบื้องต้นอยู่ในอาการเอะอะโวยวาย ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นก็ตามคงต้องรอให้แพทย์รักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บและรอให้เจ้าตัวสงบสติอารมณ์ได้ก่อน จึงจะเข้าไปทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการเกิดเหตุในครั้งนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังช่วยผู้บาดเจ็บเสร็จเรียบเรียบร้อย ทางรถยกและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันใช้รถลากดึงรถเก๋งออกจากรถพ่วง โดยพบว่ารถเก๋งนั้นเสียหายพังยับเยิน ส่วนรถพ่วงนั้นเพลาหลังขาด ล้อหลังแตกไม่สามารถขับต่อไปได้ จึงต้องช่วยกันหาทางนำรถหลบเข้าข้างทางเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นซ้ำซ้อนได้
