เพชรบุรี- วันที่ 14 ธ.ค.62 รร.เบญจมเทพอุทิศ ปิดประตู รอบ 2 หลังพบรายชื่อ “ ผอ.ไกรรัฐ” เข้ามาร่วมประชุมในโรงเรียน ด้าน ผอ.สพม.10 ยืนยัน “ไกรรัฐ สว่างเดือน” ช่วยราชการ สพม.10 แล้ว
จากกรณี 4 เครือข่ายหลัก โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศจังหวัดเพชรบุรี ประกอบด้วย 1)สมาคมผู้ปกครองและครู, 2)สมาคมนักเรียนเก่า, 3)เครือข่ายผู้ปกครอง และ4)กลุ่มสายใยครูเก่าชาวเบญจม์ ได้รวมตัวกันคัดค้านการแต่งตั้งนายไกรรัฐ สว่างเดือน ผอ.ร.ร.กระทุ่มแบน (วิเศษสมุทคุณ) จ.สมุทรสาคร ที่จะเดินทางมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศฯ ตามมติของคณะ กศจ.เพชรบุรี
เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายประการ อาทิ มีประวัติถูกภาคทัณฑ์ อันเนื่องมาจากการทุจริต และวิธีการบริหารงานบกพร่องไม่โปร่งใส และต่อมาวันที่ 6 ธันวาคม 2562 นักเรียน ร.ร.เบญจมฯ กว่า 1,000 คนได้ออกมารวมตัวประท้วงเปิดประตูรั้วโรงเรียนเบญจมฯ ไม่ให้ นายไกรรัฐ เข้าไปปฏิบัติหน้าที่และต่อมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ได้จัดประชุมเร่งด่วน และมีมติให้นายไกรรัฐไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต10 (สพม.10 )เป็นการชั่วคราวแล้ว
ต่อมาเวลา 08.00 น.วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2562 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 10 (สพม.10) ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ขึ้น ณ ห้องประชุม โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศจังหวัดเพชรบุรี โดยมีคณะครูในเขต สพม.10 และในรายชื่อผู้ร่วมประชุม มีรายชื่อของนายไกรรัฐ สว่างเดือน รวมอยู่ด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ นักเรียน รร.เบญจมฯ เริ่มมีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยนักเรียนนำโดยกรรมการนักเรียนโรงเรียนเบญจมฯ มีการรวมตัวกันที่บริเวณหน้าประตูใหญ่โรงเรียนและพยายามปิดประตูใหญ่กันไม่ให้รถยนต์เข้าไปภายในโรงเรียน แต่สามารถเดินเท้าเข้าได้ และให้รถยนต์ใช้เส้นทางเข้าโรงเรียนทางประตูด้านข้างโรงเรียนแทน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี กว่า 10 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย
ที้งนี้กรรมการนักเรียนโรงเรียนเบญจมฯ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า สพฐ.ได้แต่งตั้ง นายไกรรัฐ สว่างเดือน เป็น ผอ.โรงเรียนเบญจมฯ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามระเบียบข้าราชการต้องเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่รับทราบคำสั่ง วันนี้ (14 ธ.ค.)จะครบ 15 วัน นับจากการแต่งตั้ง
และ รร.มีเรื่องวุ่นวายภายใน แต่ปรากฏ สพม.10 กลับยังมีการจัดอบรมดังกล่าวขึ้น โดยมีชื่อ นายไกรรัฐ เป็นผู้เข้ารับการอบรมเป็นคนแรก กรรมการโรงเรียนฯ และนักเรียน มีความไม่สบายใจเกรงว่า นายไกรรัฐจะใช้โอกาสนี้เข้ามาแสดงตนในฐานะ ผอ.รร.เบญจมฯ กรรมการนักเรียนฯ และนักเรียน จึงมีมติขอปิดประตูใหญ่โรงเรียน เพื่อแสดงเจตนาไม่ต้อนรับนายไกรรัฐเข้าโรงเรียน และไม่ยินยอมรับนายไกรรัฐเป็น ผอ.เบญจมฯ
ทั้งนี้ไม่ได้ปิดกั้นการอบรมดังกล่าว เพราะแม้จะปิดประตูใหญ่ แต่ได้เปิดประตูเล็กด้านข้างให้รถยนต์เข้าออกแทน เพื่อความสะดวกในการขอตรวจสอบบุคคลที่อยู่ภายในรถ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกต่อคณะครูผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านด้วย
อย่างไรก็ตามขณะที่นักเรียนพยายามจะปิดประตูปรากฏว่า มีนางวนิดา เอี่ยมสอาด ศึกษานิเทศก์ สพม.10 ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการจัดการประชุมอบรมฯ ดังกล่าวได้มายืนขวางประตูรั้วไว้ ไม่ให้นักเรียนทำการปิด โดยให้เหตุผลว่าการกระทำของนักเรียนก่อให้เกิดความเสียหายเนื่องจากการจัดการประชุมอบรมครั้งนี้จะมีครูกว่า 400 คน จาก โรงเรียนมัธยม 4 จังหวัดในเขต สพม.10 เข้ามาอบรม
แม้นักเรียนจะพยายามอธิบายเหตุผลสาเหตุการเคลือบแคลงสงสัยนานกว่า 30 นาที แต่นางวนิดาก็ไม่ยอมออกจากการยืนขวางรั้วประตู พร้อมยืนยันว่านายไกรรัฐจะไม่เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ แต่นักเรียนไม่เชื่อ เนื่องจากพบเอกสารลงทะเบียนผู้เข้าร่วมประชุมมีชื่อนายไกรรัฐอยู่ในลำดับแรกและขอให้นางวนิดาติดต่อว่าที่ ร.ต.นพดล รักษ์แก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 10 มาชี้แจง นางวนิดาจึงโทรศัพท์ประสานให้
เบื้องต้นว่าที่ ร.ต.นพดล ยืนยันทางโทรศัพท์กับ นักเรียนว่า ขณะนี้นายไกรรัฐ ทำหน้าที่ช่วยราชการที่ สพม. 10 หากนายไกรรัฐจะเคลื่อนไหวอย่างไรต้องรายงานตนซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา เมื่อช่วงเช้าได้โทรคุยกับนายไกรรัฐแล้วพบว่านายไกรรัฐอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ยืนยันจะไม่เดินทางมาที่ รร.เบญจมฯ อย่างแน่นอน
หลังได้รับคำยืนยันจาก ผอ.สพม.10 นักเรียนจึงเปิดประตูใหญ่ให้รถยนต์สัญจรเข้าออกได้ปกติ อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาช่วงเช้า ก็ยังมีนักเรียนจำนวนหนึ่งเฝ้าระวังอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนด้วย
ทั้งนี้นักเรียนได้ตั้งคำถามว่า การอบรมครูดังกล่าวทำไมถึงมีภาคเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง และทำไมจึงใช้โรงเรียนเบญจมฯ ซึ่งกำลังมีเหตุการณ์ไม่ปกติ และเป็นสถานที่ราชการเป็นสถานที่จัดการอบรม.///
