เพชรบุรี-มีผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว คืนวันที่ 5 เมษายน 2563 ใน 5 อำเภอ ผู้ต้องหารวม 19 ราย มีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับที่ อำเภอเมือง สภ. เมืองเพชรบุรีได้รายงานผลการปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในข้อหา ออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ในคืนวันที่ 5 เมษายน 2563 จับกุมผู้ฝ่าฝืนได้ จำนวน 8 ราย สำหรับรายที่ 8 คอนายอภิสิทธิ์ ลูมิง (เขต สภ.ย่อยราชภัฏฯ) เพิ่มเติม นายอภิสิทธิ์ฯ ยังถูกดำเนินคดีในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย และเป็นผู้ขับขี่ขับรถ จยย.เสพยาเสติดให้โทษ (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ในส่วนของ ของอำเภอบ้านแหลม และอำเภอบ้านลาด พบว่ามีการจับบุคคล ในข้อหา ออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และถูกจับดำเนินคดี แห่งละ 1 ราย
ในส่วนของ อำเภอชะอำ ได้จับกุมผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ในข้อหา ออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต) จำนวน 4 ราย เป็นชาย 4 ราย และหญิง 4 ราว
ในขณะที่ อำเภอแก่งกระจาน เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. พบผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ (ออกนอกเคหะสถาน) จำนวน 5 ราย เป็นชายทั้ง 5 ราย จึงได้ทำการจับกุมโดยกล่าวหาว่าออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.โดยไม่มีความจำเป็น หรือเข้าข้อยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆที่ได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ แล้วนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้สำหรับโทษของการฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ(ในข้อหา ออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต) มีโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
