เพชรบุรี-จับมือยิงที่ชะอำ ตามข้อกล่าวหาว่า “ เจตนาฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และพยายามฆ่าผู้อื่นและมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่รับอนุญาต ”
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของคืนวันที่ 24 มิถุนายน 2563 เฟซบุ๊กแฟนเพจ ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน๑๙๑เพชรบุรีรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.วรเดช สวนคล้าย ผกก.สภ.ชะอำ , พ.ต.ท.วิวรรธน์ ลำพู รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ทวีเดช เทียนทอง สว.สส.สภ.ชะอำ , ร.ต.อ.อลงกต น้อยแสง พร้อมชุดสืบสวน
ได้จับกุมตัว นายนพรัตน์หรือลาน บุญเกตุ อายุ ๒๒ ปี โดยกล่าวหาว่า “ เจตนาฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และพยายามฆ่าผู้อื่นและมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่รับอนุญาต ” พร้อมของกลาง ๑)อาวุธปืนยาวชนิดลูกซองแบบหักลำแบบบรรจุครั้งละหนึ่งนัดไม่มีหมายเลขประจำปืนและไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน ๑ กระบอก ๒)ปลอกกระสุนปืนชนิดลูกซอง สีแดง เบอร์ ๑๒ จำนวน ๑ นัด ๓)เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ จำนวน ๑ ตัว เป็นเสื้อตัวที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในขณะก่อเหตุ ๔)กางเกงขายาวสีเขียว จำนวน ๑ ตัว จากนั้นนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้จาก กรณียิงกันตายที่ชะอำเริ่มจากหนังสติ๊กจบที่ลูกซองเพชรบุรี เกิดเหตุเมื่อเวลา17.00 น. วันที่24 มิถุนายน2563 ร้อยตำรวจเอกอัศวร์พิชญ์ไชยศรีร้อยเวรสภ. ชะอำได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกยิงที่บริเวณถนนเลียบคันคลองชลประทานสายบ่อแขม– ห้วยทรายใต้ มีทั้งผู้ได้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงรีบรุดไปตรวจสอบ
บริเวณที่เกิดเหตุ อยู่ริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 852 ถนนคลองชลประทานบ่อแขม อำเภอชะอำจังหวัดเพชรบุรี พบศพนายนายพล นิลประเสริฐอายุ 44 ปีถูกยิงเข้าที่ราวนมข้างซ้าย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 รายทราบชื่อภายหลังคือนายสุวัฒน์ นุชสำอางอายุ 17 ปีถูกยิงเข้าที่ชายโครงข้างซ้ายอาการสาหัส ส่งรักษาตัวที่ รพ. พระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี
จากการสอบถาม น.ส.สะเทื้อน แก้วเนตร แม่ของผู้ก่อเหตุเล่าว่า นายนพรัตน์ บุญเกตุ เป็นผู้ก่อเหตุใช้ปืนลูกซองยาว ยิงใส่นายพลผู้ตายและนายสุวัฒน์ผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้น ได้วิ่งหลบหนีหายเข้าไปในป่าหลังบ้าน
ทั้งนี้ในเวลาต่อมา ในวันเดียวกัน (24มิ.ย.63) จนท.ตำรวจ สภ.ชะอำได้ติดตามจับกุมตัว นายนพรัตน์หรือลาน บุญเกตุ ได้พร้อมของกลาง และส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายต่อไป
***ข่าวที่เกี่ยวข้องคลิก ยิงกันตายที่ชะอำ เมื่อ24 มิ.ย.63
