เพชรบุรี -ตำรวจจับมือปืนที่ยิงหนุ่มชะอำในไร่มันสำปะหลังของเพื่อนบ้าน เป็นพ่อเฒ่าวัย 64 ปี อ้างว่าผู้เสียชีวิตกำลังหว่านตะปู ที่ทางเข้าบ้านเพื่อหวังร้ายต่อลูกสาวตน จึงซุ่มยิงด้วยปืนแก๊ป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ว่าที่ พ.ต.อ.วายุภักษ์ วงศ์ศักดิรินทร์ ผกก.สภ.ชะอำ ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายคำนึง เอี้ยงเจียม อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 5 ต.ห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) ยิง นายปราโมทย์ หรือต้น ไกรวิลาศ อายุ 27 ปี เสียชีวิตที่บริเวณไร่มันสำปะหลังริมถนนซอยสินทรัพย์ หมู่ 5 บ้านหนองขาม ต.ห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.อุทัย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุพบ นายปราโมทย์ หรือต้น ไกรวิลาศ นอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณดังกล่าวมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนแก๊ปที่บริเวณแผ่นหลังทะลุออกต้นคอใกล้กันพบมีดพร้า 1 เล่ม และตะปูเรือใบจำนวนหนึ่ง จากการสอบประวัติพบผู้ตายมีพฤติกรรมเสพยา และชอบลักเล็กขโมยน้อย เคยถูกจำคุกในคดีข้อหาชิงทรัพย์เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2563
ทั้งนี้จากการสืบสวน ทราบว่าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คือนายนายคำนึง เอี้ยงเจียม ซึ่งเป็นอดีตพรานป่าและมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนแก๊ป จึงได้ขออนุมัติหมายศาลจังหวัดเพชรบุรีเข้าตรวจค้นและจับกุมนายคำนึงพร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ (ปืนแก๊ป) พร้อมเครื่องกระสุนและกัญชาได้ที่บ้านพักของนายคำนึง
สอบสวนนายคำนึง รับสารภาพว่าในช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา มักจะมีคนมาลักขโมยผลไม้และพืชสวนภายในไร่ของตนอยู่บ่อยครั้ง และชอบมาวางตะปูเรือใบที่ปากทางเข้าบ้านของตนเองอยู่เป็นประจำ ประกอบกับตนเป็นห่วงความปลอดภัยของบุตรสาวทั้ง 2 คน เกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงนำอาวุธปืนติดตัวไปตรวจพื้นที่ไร่ ก่อนเกิดเหตุพบนายปราโมทย์ผู้ตายเดินถือมีดพร้ามา ตนจึงเข้าไปหลบในป่าอ้อยข้างทางเพื่อซุ่มดูและเห็นนายปราโมทย์กำลังก้มลงวางตะปูเรือใบ จึงใช้อาวุธปืนยิงนายปราโมทย์ จนเสียชีวิต จากนั้นจึงได้เดินกลับไปที่บ้านพักของตนเอง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป.///
