เพชรบุรี- จนท.ชาวบ้านบางกลอย 2 คน ได้พร้อมซาก ค่างแว่นถิ่นใต้ และ ลิงเสน สารภาพล่ามาได้ในเขตมรดกโลก อช.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ถูกแจ้ง 6 ข้อหา ตรวจสอบพบ 1 ใน 2 เคยถูกจับกุมฐานร่วมกับพวกรวม 30 คน บุกรุกแผ้วถางป่าบางกลอยบน 156 ไร่ เมื่อ ปี 2564 ด้วย
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2565 นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าฝ่ายป้องกัน ปราบปรามและป้องกันไฟป่า นายจิรายุ พูลทวี หัวหน้าเขตบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติที่ 2 และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกันจับกุมตัว นายประเสริฐ อายุ24 ปี และนายชาย อายุ 18 ปี ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย หมู่ที่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมของกลาง ค่างแว่นถิ่นใต้ (Rresbytis obscurus) สัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 16 จำนวน 5 ซาก และ ลิงเสน (Macaca aratoides) สัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 153 จำนวน 2 ซาก ซุกซ่อนอยู่ในถุงปุ๋ยรวม 2 ใบ และรถ จยย.ที่ใช้ทำความผิด จำนวน 1 คัน ได้ที่บริเวณหมู่บ้านพุไทร หมู่ที่ 3 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
โดยก่อนจับกุม เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยกฎหมายป่าไม้ และเมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าว พบ นายประเสริฐ เป็นผู้ขับขี่รถ จยย. โดยมี นายชาย นั่งซ้อนท้ายออกมาจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และมีกระสอบปุ๋ย อยู่บนรถจักรยานยนต์บริเวณหน้าคนขับขี่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นและพบของกลางดังกล่าวซุกซ่อนอยู่
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้ล่าสัตว์ป่าดังกล่าว ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหารวม 6 ข้อ และนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้สำหรับนายประเสริฐ พุกาด อายุ 24 ปี ตรวจสอบประวัติเคยถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จับกุมฐานร่วมกันบุกรุกแผ้วถางป่าอุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน บริเวณป่าบ้านบางกลอยบน กับพวกรวม 30 คน จำนวน 18 แปลง เนื้อที่รวม 156-3-69 ไร่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ก.พ.64.อีกด้วย
สำหรับการกระทำข้างต้นของ ประเสริฐ พุกาด และสมชาย พุกาด เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 รวม 6 ข้อ ประกอบด้วย 1.)ฐาน“ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ” 2.) ฐาน “เข้าไปดำเนินกิจการใดๆเพื่อหาผลประโยชน์ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” 3.)ฐาน “นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆเข้าไปภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” 4.)ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใด ล่า หรือพยายามล่า สัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5.)ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอบครองซึ่ง สัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” 6.)ผู้ใดกระทำการหรืองดเว้นกระทำไม่ว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ผู้นั้นต้องชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย .
