เพชรบุรี-สัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ ลูกวาฬเสียชีวิตแล้วลอยมาเกยตื้น บนโขดหินใกล้หาดมรายเม็ดแรก อ.บ้านแหลมจ.เพชรบุรี เบื้องต้นไม่พบบาดแผล และไม่มีอาหารในท้อง คาดพลัดหลงกับแม่ และขาดอาหารจนเสียชีวิต
วันที่ 6 กันยายน 2565 สัตวแพทย์หญิงราชาวดี จันทรา สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน (ศวทบ.)สังกัดสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 เดินทางมาที่ หาดทรายเม็ดแรก ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ร่วมกันผ่าพิสูจน์วาฬ ที่ตายแล้วลอยมาเกยตื้นที่ บริเวณโขดหิน ใกล้หาดทรายเม็ดแรก ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
นายมนู อรัญพันธ์ ประมงพื้นบ้าน อาสาสมัคร ทสม.อ.บ้านแหลม และผู้ทรงคุณวุฒิด้านอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง จ.เพชรบุรี ว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา มีชาวประมงพบซากวาฬ สภาพภายนอกอืดบวม ด้านซ้ายของลำตัวพบการไหม้ของผิวหนังเนื่องจากแสงแดด ถูกคลื่นซัดมาติดอยู่ที่บริเวณเขื่อนหินกันคลื่น ปากร่องน้ำคลองอีแอด ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี จึงประสานแจ้งนายมนตรี หามนตรี ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ดำเนินการลากซากมาที่หาดทรายเม็ดแรก และประสานเจ้าหน้าที่มาตรวจพิสูจน์ซาก เพื่อหาสาเหตุการตาย
ด้านสัตวแพทย์หญิง ราชาวดี จันทรา เผยว่า วาฬดังกล่าว ยาวประมาณ 5.27 เมตร หนักประมาณ 6 ตัน เพศผู้ อายุไม่เกิน 2 ปี เป็นลูกวาฬ ที่กำลังอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนจากการกินนมและเข้าสู่การกินอาหารอื่น เบื้องต้นระบุได้เพียงว่าเป็นวาฬ ชนิดซี่กรอง อาจเป็นวาฬโอมูระหรือชนิดอื่น แต่คาดว่าไม่ใช่วาฬบรูด้า เนื่องจากวาฬบรูด้าจะมีสันที่หัว 2 สันแต่ตัวที่พบนี้มีสันที่หัวเพียงสันเดียว และยืนยันด้วยซี่โครงซี่แรก จากการสำรวจจำนวนของวาฬบรูด้าที่ผ่านมา ไม่มีการตรวจพบ ว่าวาฬตัวนี้หากินในทะเลเขต จ.เพชรบุรี
ส่วนผลการผ่าพิสูจน์เบื้องต้น บริเวณด้านนอกไม่พบบาดแผล ในกระเพาะไม่พบอาหาร อาจเป็นไปได้ ว่าลูกวาฬตัวนี้อาจเกิดพลัดหลงกับแม่ และยังไม่สามารถหากินด้วยตนเองได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการผ่าพิสูจน์ และเก็บกระดูกวาฬ เพื่อไปทำการตรวจสอบ ส่วนซากเนื้อได้ทำการฝังที่บริเวณชายหาดทรายเม็ดแรก ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลมจ.เพชรบุรี.
