โดยเหตุกราดยิงที่เพชรบุรี เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.36 น. วันที่ 22 มีนาคม 2566 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุชายคุ้มคลั่ง ทราบชื่อต่อมาคือนาย อนุวัช แหวนทอง หรือปิง อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 3 ตำบลต้นมะม่วง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ใช้อาวุธปืนกราดยิง ภายในหมู่บ้านกรุงเพชร ซอย 4 ตำบลต้นมะม่วง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิต จึงรายงานไปยัง พล.ต.ต. ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และ พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองเพชรบุรี ทราบ พร้อมประสานตำรวจชุดสืบสวน ชุดปฏิบัติการสายตรวจ หน่วยกู้ชีพของโรงพยาบาล ร่วมสนับสนุน
ในที่เกิดเหตุ อยู่ในซอย 4 จากการใช้โดรนบินเข้าไปเก็บภาพ พบร่างผู้เสียชีวิตถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเสียชีวิต อยู่บนถนนภายในซอยจำนวน 3 ราย โดยรายที่ 1 นอนทับรถจักรยานยนต์อยู่ ทราบชื่อคือ นายภษิต เอมโอษฐ (หรือโอ๊ต) อายุ 22 ปี ศพที่ 2 อยู่ใกล้กัน ทราบชื่อต่อมา คือนายรัฐกร ทองแก้ว ( เบล ) อายุ 22 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร และห่างออกไปอีกเล็กน้อย พบศพ นายศิรพัฒ วัฒนะ อายุ 27 ปี อาชีพขับรถขนส่งสินค้า ที่อยู่ตามบัตรประชาชน หมู่2 ต.โพพระ อ.เมืองเพชรบุรี
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ มีจำนวน ทั้งหมด 3 ราย โดยรายที่ 1 คือ ร.ต.ต.กนกศักดิ์ มุทธากาญจน์ นายก อบต.ต้นมะม่วง ถูกยิงขณะขับรถยนต์เข้ามาตรวจที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นในซอยนี้โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นการยิงกัน เมื่อขับรถเข้ามาในซอยนายอนุวัช ก็ยิงเข้าไปที่ด้านหน้ากระจกรถของนายก อบต.ทันทีจำนวนประมาณ 7 นัก กระสุนปืนเข้าที่บริเวณช่วงแก้มฝังที่คอ ได้รับบาดเจ็บ และลูกน้องนายกฯ ที่ขับตามเข้ามาได้ ขึ้นไปขับรถแทนนายกฯ แล้วนำตัวนายกฯ ส่งรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพเพชรบุรี ต่อมาเมื่อเวลา 18.00น. ถูกนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทน์ จ.นครปฐม และ ช่วงค่ำของวันที่ 22 มีนาคม 2566 ได้นำตัวส่งต่อไปรักษา ที่ รพ.จุฬา กทม. ซึ่งแพทย์ระบุว่าจะต้องผ่าตัดเอาหัวกระสุนออก
สำหรับรายที่ 2 คือนายกฤษดา ศรีทา อายุ 36 ปี ถูกยิงขณะขับรถยนต์เข้าไปในบ้านตัวเองซึ่งอยู่ในซอยที่เกิดเหตุ เมื่อเข้าไปก็ถูกนายอนุวัช ยิงใส่เข้ามาในรถทันทีจำนวนหลายนัด และมีกระสุน 1 นัดที่ทะลุกระจกเข้ามาถูกที่บริเวณก้น ถูกนำตัวส่งรักษา ที่ รพ.พระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี แพทย์ได้ผ่าเอาหัวกระสุนออกมาจากก้น อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว และนอนพักรักษาตัวต่อไป สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บรายที่ 3 คือ ร.ต.ท. สมชาย แย้มเยื้อน ตำรวจ นปพ.ภ.จว.เพชรบุรี ถูกยิงเมื่อเวลา ประมาณ 20.30 น.ขณะปฎิบัติหน้าที่เข้าไปกดดัน นายอนุวัช ที่แอบซุ่มตัวอยู่ภายในบ้านของตัวเอง กระสุนปืนถูกบริเวณแก้มเป็นแผลเพียงเล็กน้อย ถูกนำตัวส่งรักษา ที่ รพ.พระจอมเกล้าฯ
ต่อมาเวลาประมาณ 23.30 น.พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อม พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อประเมินและสั่งการการปฎิบัติการในครั้งนี้ จนนำไปสู่การเข้ากดดันและวิสามัญคนร้ายจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ ภายหลังจากวิสามัญคนร้าย เมื่อเวลาประมาณ ตี 4 ของคืนวันที่ 22 มีนาคม 66 พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา 14.00น.วันที่ 22 มีนาคม 2566 จนถึงเวลา 03.45น. ของคืนวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการตามขั้นตอนทางยุทธวิธี จากเบาไปหาหนัก และคำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งผู้ก่อเหตุและเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากตำรวจจะเจรจาเองแล้ว ยังได้นำทั้งแม่ และเพื่อนของนายอนุวัช มาเจรจาเกลี่ยกล่อมให้นายอนุวัชมอบตัว แต่นายอนุวัชก็ไม่มอบตัว พร้อมกับยิงปืนออกมาจากบ้านเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง และกระสุนยังถูกรถยนต์สายตรวจ ของ สภ.เมืองเพชรบุรี จำนวน 2 แห่ง คือที่กระจกหลัง และฝาท้ายกระบะ อีกด้วย จนกระทั่งเวลา ตี4 ของคืนวันที่ 22 มีนาคม 2566 จึงได้ รุกคืบเข้าไปในบ้านของนายอนุวัช และถูกนายอนุวัชยิงสวนออกมา และตำรวจได้ยิงต่อสู้จนเป็นเหตุให้นายอนุวัชเสียชีวิตในที่สุดดังกล่าว
ด้านนายณัฐชัย นำพูนสุขสันต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อม พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เกินทางมาอำนวยการสั่งการ พร้อม พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 , พลตำรวจตรีอุทัย กวินเดชาธร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ,พล.ต.ต. ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และ พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี ตลอดจนตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ร่วมปผฎิบัติการในครั้งนี้ ในขั้นตอนต่อไป ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี จะได้หารือแนวทางเยียวยาในทุกๆ ด้าน ให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง ผู้ก่อเหตุ 1 ราย ผู้ถูกยิงเสียชีวิต 3 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย อย่างยุติธรรม พร้อมหามาตรการต่างๆ เสริมเพื่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะดังกล่าว ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีต่อไป
