เพชรบุรี- คนร้ายขี่ จยย.ตามประกบยิงหนุ่มหัวสะพานดับ ริมถนนเพชรเกษม เขต อ.เมืองเพชรบุรีคาดประเด็นชู้สาว ในขณะที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพนาทีสังหารไว้ได้อย่างชัดเจน ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
โดยเมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 30 มกราคม 2567 พ.ต.ท.หญิง สุนันทา รอดเพชร สารวัตรเวร สภ.เมืองเพชรบุรี รับแจ้งเหตุ ว่ามีบุคคลถูกยิงเสียชีวิต ริมถนนเพชรเกษมขาเข้ากรุงเทพ ต.หัวสะพาน อ.เมืองเพชรบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี แพทย์เวร รพ. พระจอมเกล้า เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน ร่วมตรวจสอบ
บริเวณที่เกิดเหตุ อยู่ริมถนนเพชรเกษม พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปปี้ไอ สีฟ้าขาวล้มอยู่ และพบผู้เสียชีวิตคร่อมอยู่บนรถ ต่อมาทราบชื่อคือนาย สุทัศน์ ลบโฉม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 ต.หัวสะพาน อ.เมืองเพชรบุรี มีอาชีพเป็นพ่อค้าขับรถเร่ขายของตามหมู่บ้าน แพทย์ชันสูตรพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืน เข้าที่ใต้กกหูขวา ลำคอ หน้าอก ท้อง แขน และแผ่นหลัง รวม 14 แผล นอกจากนี้ในโรงเรียนที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก ตกกระจัดกระจาย อยู่บนถนนเพชรเกษม ก่อนถึงจุดพบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด พบว่าก่อนถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นผู้ชาย ใส่เสื้อแขนยาวสีม่วงกางเกงขาสั้น ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปปี้ สีเทาดำ ติดตามผู้เสียชีวิตมา แล้วชักอาวุธปืน แล้วกระหน่ำยิง จนรถผู้ตายเสียหลักพุ่งลงข้างทาง โดยผู้ก่อเหตุได้เดินตามลงมาและใช้อาวุธปืน ยิงซ้ำ แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ด้านนายธง ลบโฉม อายุ 65 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งลูกสาวไปโรงเรียน ซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองเพชรบุรี และมาถูกยิงขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 4 เดือนผู้ตายเคยถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกาย จนเป็นคดีความ และกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวถูกจับดำเนินคดีไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะมีปัญหากับกลุ่มอื่นอีกหรือไม่
พร้อมเผยต่อว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุหลายวัน มีโทรศัพท์ชายไม่ทราบชื่อ โทรเข้ามาหาผู้เสียชีวิต อ้างว่าผู้เสียชีวิตไปมีความสนิทสนมกับแฟนตนเองที่กำลังจะแต่งงานด้วย ซึ่งผู้เสียชีวิตได้ปฏิเสธ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสามารถหาหลักฐานและติดตาม สืบสวนสอบสวนคนร้ายรายนี้มาลงโทษตามกฏหมายได้
ด้านตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี และ ตำรวจชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดเพชรบุรี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
