เพชรบุรี-ความคืบหน้าล่าสุด กรณีรถขนไอซ์คว่ำที่เพชรบุรี นำไปสู่การจับ 2 ผู้ต้องหา พร้อมไอซ์ 466.4 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ล่าสุด ตำรวจเพชรบุรี ระบุชัดเจนว่า ได้ส่งข้อมูลหลักฐาน ให้ บช.ปส. ไปขยายผลต่อแล้ว
จากกรณีที่มีกระแสในโลกออนไลน์ ต้องการทราบความคืบหน้า ในคดีเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 ที่เกิดเหตุรถสิบล้อพลิกคว่ำจน ยาไอซ์กระเด็นตกมาจากรถ นำไปสู่การ จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คนพร้อมของกลาง ยาไอช์ จำนวน 466.4 กก. มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยคดีในเบื้อนต้น อยู่ในความดูแลของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี แต่ปัจจุบันได้ส่งมอบคดีให้กับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดแล้ว เพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป
ทั้งนี้เมื่อ วันที่ 2 ตุลาคม 2562 พ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อว่า “ขอให้สังคมได้รับรู้ว่า ตำรวจเพชรบุรีไม่ได้ละเลย หรือเจอตอ พวกเราไม่เคยกลัวการต่อสู้กับคนชั่ว แต่เป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาของเราเห็นว่า เรื่องมันเกี่ยวข้องกับต้นทางและปลายทางต่างท้องที่ สำหรับ สภ.เมืองเพชรบุรี นั้นเป็นแค่ทางผ่าน การส่งมอบภารกิจให้ บช.ปส.ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะด้าน จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า”
ในขณที่ พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ตำรวจเพชรบุรี ได้ดำเนินการ ตรวจนับจำนวนยาไอซ์ร่วมกับหลายหน่วยงานอย่างละเอียด อีกทั้งยังได้ตรวจสอบทั้งเส้นทางการเดินรถของสิบล้อคันเกิดเหตุ ตลอดจนสอบสวนสืบสวนหาข้อมูลประวัติของผู้ต้องหาทั้งสองคน และผู้เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้จากการสืบสวนสอบสวน ประกอบกับ ข้อกฎหมายทราบว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายดังกล่าวเป็นรายใหญ่ เกี่ยวพันกันหลายพื้นที่ตั้งแต่ภาคเหนือตลอดเส้นทางจนไปถึงภาคใต้ ผู้บังคับบัญชา จึงเห็นควรให้นำคดีนี้ตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่ง บช. ปส. เพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน พร้อมของกลางนำส่งกลุ่มงานสอบสวน บช.ปส.บก.ปส.4 ซึ่งได้รับคำร้องทุกข์ตามคดีอาญาที่ 77/2562 ยึดทรัพย์ที่ 74/2562 ลงวันที่ 21 กันยายน 2562 เวลา 21.00 น. ตาม ปจว.ข้อ2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2562 แล้ว
ทั้งนี้ในวันแถลงข่าว ตั้งแต่เมื่อ วันที่ 21 กันยายน 2562 พล.ต.ท. อภิชิต เทียนเพิ่มพูล รอง ผบช.ภ7 ได้เปิดเผยว่าการดำเนินการจับกุมยาไอซ์จำนวนมหาศาลในครั้งนี้ ทางตำรวจธรภาค 7 จะพิจารณาส่งคดีต่อให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยต่ออีกว่า คาดว่า เป็นขบวนการขนาดใหญ่ ทำกันมานานโดยสังเกตได้ว่ารถ 10 ล้อคันที่ขนยาไอซ์และพลิกคว่ำเป็นของ นาย อดินันท์ แลหะ อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส ตรวจสอบพบว่าซื้อด้วยเงินสด อีกทั้งนายอดินันต์ เคยเป็นผู้ต้องโทษในคดียาเสพติด ตั้งแต่ปี 2553 ถึง 2558 รวม 5 ปี อีกด้วย จึงเป็นที่มาของการส่ง คดีไอซ์มูลค่า 200 กว่าล้าน ให้กับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง คลิกเพื่ออ่าน
ผู้การเมืองเพชรสั่งตรวจหาที่มาไอซ์
คลิกเพื่ออ่าน
