อ่างทอง – คืบหน้าพระหาย 50 ล้าน ผกก.สภ.เมือง.พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจลงตรวจสอบพื้นที่ เก็บลายนิ้วมือ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด เจ้าอาวาสเผยฝากธนาคารไว้แล้วไปนำกลับมา หลังธนาคารซ่อมแซมพื้นที่เซฟ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ก.ค. คืบหน้าพระหาย 50 ล้าน ที่กุฎิเจ้าอาวาสวัดสุธาดล หมู่ 7 ตําบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง พ.ต.อ.มนตรี คชาพรรธน์ ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเก็บ ลายนิ้วมือ หลังจากมีคนร้ายงัดกุฎิและเข้าไปขโมยทรัพย์สิน พระครูวิจิตรถิรธรรม อายุ 73ปี เจ้าอาวาสวัดสุธาดล เป็นพระเครื่องกว่า 100 องค์ มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท เงินสดร่วมสองแสน โดยที่หายไปเป็นพระเครื่อง “พระเบญจภาคี” หรือพระเครื่อง 5 องค์ อันได้แก่ “พระสมเด็จวัดระฆัง” “พระรอด” “พระนางพญา” “พระผงสุพรรณ” และ “พระซุ้มกอ” ซึ่งเป็นพระเครื่องเก่าแก่ที่ ซื้อเก็บสะสมไว้นานแล้ว ที่ผ่านมาก็ได้นำเข้าประกวดพระเครื่องได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
พระครูวิจิตรถิรธรรม เล่าว่า ในวงการพระเครื่องจะรู้จักในนาม “เสริฐเมืองลพ”และเคยเป็นกรรมการตัดสินพระเครื่องมาแล้วหลายสนาม และได้ทำการสะสมพระเครื่องต่างๆ ที่มีราคาไว้จำนวนมาก และได้ส่งเข้าประกวดได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้วหลายรายการ ส่วนใบประกาศนั้นได้ขายไปหมดแล้ว เหลือเพียงแต่พระเครื่อง แต่ยังโชคดีที่มีพระเครื่องอีกจำนวนมากหลงเหลืออยู่ที่คนร้ายไม่ได้ขโมยไป ซึ่งเป็นพระเครื่อง พระสมเด็จวัดระฆัง พระรอด พระนางพญา พระผงสุพรรณ อีกจำนวนหนึ่ง ที่ผ่านมานั้นได้นำพระเครื่องที่มีราคาไปฝากไว้ที่เชฟธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง และในช่วงนี้ทางธนาคารได้ทำการซ่อมแซมพื้นที่บริเวณเซฟ จึงได้นำกลับมาเก็บไว้ที่กุฎิก่อนหายไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเงินสดร่วมสองแสนบาท
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ติดอยู่บริเวณหน้ากุฎิ พบว่าได้ถอดสายไฟออกมาในตอนซ่อมแซมกุฎิแล้วยังไม่ได้เสียบสายไฟลงไป ส่วนกล้องวงจรปิดที่บริเวณศาลาหน้าวัดนั้นตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่พบภาพผู้ต้องสงสัย เนื่องจาก คนร้าย เข้าทางด้านประตูหลัง ซึ่งบริเวณด้านประตูหลังนั้น ไม่มีกล้องวงจร ปิด เบื้องต้น คาดว่า น่าจะเป็นบุคลที่รู้ความเคลื่อนไหวภายในวัดดี โดยลงมือก่อเหตุ อาศัยจังหวะช่วงเวลาพระออกไปรับกิจนิมนต์ที่บริเวณศาลการเปรียญ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: