นครพนม – ตชด.สกัดจับโจ๋ลาว ลอบขนกัญชาเกือบ 100 กก. ส่งนักพี้ฝั่งไทย คุมเข้มชายแดน ห่วงทะลักไทยช่วงน้ำโขงแห้ง
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235(ตชด.235) อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด. 23 มอบหมายให้ พ.ต.ต.ภัคพล คุ้มวงศ์ ผบ.ตชด.235 ประสานงานร่วมกับ นายสามารถ สุวรรณมณี นายอำเภอธาตุพนม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงการณ์จับกุมสมุนแก๊งขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติเป็นชาวลาวทราบต่อมาว่าชื่อ ท้าวบิลลี่ พงอุดม อายุ 19 ปี ชาวบ้านปากเซ เมืองหนองบก สปป.ลาว พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 97 แท่ง / 97 กิโลกรัม มูลค่าของกลางไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท
โดยจับกุมได้เมื่อกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำเข้ากัญชาในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จึงระดมกำลังวางแผนดักซุ่มจับกุม บริเวณริมน้ำโขงบ้านศรีบุญเรือง ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม ขณะผู้ต้องหาพร้อมพวกอีก 1 คน กำลังช่วยกันขนกระสอบบรรจุกัญชามาพักริมถนน เพื่อรอรถขนส่งแต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับไว้ ส่วนเพื่อนอีกคนหลบหนีทัน ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดี
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันรับจ้างจากนายทุนชาวลาว ให้ลักลอบขนกัญชาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน บรรทุกลงเรือหางยาว ข้ามฝากมาส่งลูกค้าฝั่งไทย โดยได้ค่าจ้างคนละ 5,000 บาท ซึ่งทำมาแล้ว 3 ครั้ง กระทั่งครั้งนี้ ถูกจับกุมได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวน ขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนกัญชาดังกล่าว เชื่อว่าจะนำมาพักเพื่อนำส่งไปขายทางภาคใต้ โดยช่วงนี้จะมีการลักลอบนำเข้ามากขึ้น เนื่องจากระดับน้ำโขงแห้ง เป็นอุปสรรคในการออกเรือลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ แต่เอื้อต่อการพักยาเสพติด ซึ่งพื้นที่ชายแดนนครพนม ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการตรวจยึดกัญชาแล้วกว่า 5 ตัน
ด้าน นายสามารถ สุวรรณมณี นายอำเภอธาตุพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ได้มีการประสานงาน บูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงทุกภาคส่วน ในการเพิ่มมาตรการเข้มในการดูแลสกัดกั้นปราบปราม การลักลอบขนส่งยาเสพติดตามแนวชายแดน ในพื้นที่ อ.ธาตุพนม เนื่องจากช่วงนี้ผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้น้ำโขงลดลงต่อเนื่อง บางจุดน้ำโขงแห้งขอด เกิดสันดอนทราย ปัญหาที่ตามมาคือ เป็นอุปสรรคในการสกัดกั้นปราบปราม การลักลอบขนส่งยาเสพติด จึงต้องมีการตรวจสอบดูแล ทั้งการข่าว โดยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน และสร้างความร่วมมือชุมชนหมู่บ้าน ในการแจ้งเบาะแส ซึ่งจะได้เข้มงวดต่อเนื่องในช่วงนี้ ป้องกันปัญหายาเสพติดทะลักเข้ามาในพื้นที่ ไปจนถึงการตรวจสอบคัดกรองจับกุมทั้งผู้เสพเพื่อตัดวงจรการค้า
