นครพนม – วันที่ 27 พ.ค.61 เวลา 15.00 น. ห้องประชุมฮอลล์ 2 โรงแรมไอโฮเทล บ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ประชุมการส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางริมแม่น้ำโขง เชื่อมโยง 7 จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย 1.เลย 2.หนองคาย 3.บึงกาฬ 4.นครพนม 5.มุกดาหาร 6.อำนาจเจริญ และ 7.อุบลฯ โดยมีผู้อำนวยการการท่องเที่ยวฯและตัวแทนทั้ง 7 จังหวัด พร้อมหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานอาวุโสหอการค้าไทย เปิดต่อที่ประชุมว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางริมแม่น้ำโขง เป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เมื่อคราวเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 27 มี.ค.60 ซึ่งเห็นเรื่องความสวยงามของเส้นทางท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง และการเชื่อมโยง 2 ฝั่ง(ไทย-ลาว) ตลอดจนจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่จังหวัดเลยถึงอุบลฯ ล้วนมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
โดยแยกกลุ่มเป้าหมายไว้ 6 ธีม ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ 1.เส้นทาง ROMANTIC :ลมหายใจแห่งแผ่นดินและสายน้ำ เจาะตลาดนักท่องเที่ยวที่เป็นคู่รัก 2.เส้นทาง LIFE STYLE : ชิม-ช็อป-แชะ รายทางริมฝั่งโขง เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัย 3.เส้นทาง SLOW LIFE : เลาะเลียบเส้นทางแห่งความสุข เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม Millennial 4.เส้นทาง CULTURE : กายสุข ใจสบาย เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen Y 5.เส้นทาง ADVENTURE เจาะตลาดนักท่องเที่ยวที่ชอบกิจกรรมผจญภัย เช่น ขับรถท่องเที่ยว เดินป่า ชมธรรมชาติ และ 6.เส้นทาง SPORT เน้นการจัดกิจกรรมกีฬา เช่น กิจกรรมทางน้ำ การปั่นจักรยานทางไกล วิ่งมาราธอน ไตรกีฬา โดยเส้นทางทั้งหมดเน้นการท่องเที่ยวเชื่อมโยง กิจกรรม และการส่งเสริมชุมชนเป็นหลัก นอกจากนี้ยังจะเชื่อมโยงสู่ประเทศเพื่อนบ้าน จัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายตามนโยบายรัฐบาลในเรื่องชุมชนด้วย
รมว.ททก.ถือโอกาสนี้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในเรื่องการแก้ภาพอีสาน “ร้อน แล้ง ไกล และถูก” โดยสร้างภาพจำซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ การใช้ Story เชื่อจากแหล่งเป็นแอ่ง จากแอ่งไปสู่การรับรู้เข้าใจง่าย จับแอ่งตามชื่อกิจกรรม ค่อยๆใส่ภาพจำใหม่ ขายความสวยงามของแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรีเน้น “เส้นทางผ้า” ซึ่งจะเป็นการแตกแขนงจากพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นกลุ่ม Niche อีกประเภทหนึ่ง พร้อมเน้นย้ำในที่ประชุมให้ทำงานร่วมกับ การท่องเที่ยวฯ กีฬา ภาคประชาชน และภาควิชาการ แต่ขอให้อยู่ในวิสัยที่ทำได้จริง ทำในสิ่งที่ตอบโจทย์ ความยั่งยืน เชื่อมโยง ในส่วนที่เป็น International Route มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ดำเนินการ ส่วนที่เป็นงานระดับภายในจังหวัดให้ การท่องเที่ยวและกีฬา(ทกจ.) รับไปดำเนินการ จะได้ทำพัฒนาด้วยกัน ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทำในสิ่งที่ซับซ้อนกว่า และไปเชื่อมโยงกับต่างประเทศ ที่ประชุมเห็นชอบแผน โดยกำหนดภายใน 2 เดือน ททท.ไปหลอมรวมทุกภาคส่วนมาทำเป็นแผนนำเสนอในการประชุมคราวต่อไป
