นครพนม – วันที่ 1 มิ.ย.61 กรณีพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรมหาวิหาร ผู้ต้องหาฟอกเงินในคดีเงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม ซึ่งคาดว่าหลบหนีข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในช่องทางธรรมชาติ โดยอาศัยเรือหาปลาข้ามจากชุมชนบ้านท่าควาย เขตเทศบาลเมืองนครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามก็ยังปักหลักอยู่ในพื้นที่ เพื่อไล่ล่าตัวชนิดพลิกแผ่นดิน มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คอยรับฟังรายงานอยู่ในพื้นที่ด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดป่าสุคนธรักษ์ บ้านค่ายเสรี หมู่ 9 ต.นางาม อ.เรณูนคร สถานที่พบรถตู้ของอดีตพระพรหมเมธี มีเจ้าสำนักสงฆ์ไม่ยอมเปิดเผยสมณศักดิ์แจ้งว่า วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันวิสาขบูชา เวลาหลังเที่ยงท่านกำลังยุ่งสาละวนกับพิธีเวียนเทียน มีชายคนหนึ่งเป็นฆราวาสเดินบอกว่า “ขอฝากรถหน่อย” แล้วก็หายไปอย่างไรร่องรอย ซึ่งเป็นรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า Alphard สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ข้างโรงครัว ต่อมาในตอนเย็นวันเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอพบ แล้วสอบถามว่าเจ้าของรถตู้คันนี้ไปไหน ท่านก็ตอบไม่รู้ จากนั้นก็เชิญตัวไปสอบสวนข้อเท็จจริง ท่านได้ให้รายละเอียดไปหมดแล้ว ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตพระพรหมเมธี เมื่อถามว่าเคยเจออดีตพระดังกล่าวไหม เจ้าสำนักตอบพบครั้งเดียวในร้านอาหารที่แขวงคำม่วน สปป.ลาว จึงเข้าไปกราบนมัสการในฐานะตนเป็นพระผู้น้อย ส่วนรถตู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำไปเก็บไว้ที่โรงเก็บรถ สภ.เรณูนคร ข้างโรงพักมีสภาพเปรอะเปื้อนฝุ่นโคลน สำหรับป้ายทะเบียนนั้น เจ้าสำนักสงฆ์วัดป่าฯ กล่าวว่าถูกถอดมาก่อนหน้านี้แล้ว ผู้สื่อข่าวถามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าไม่ทราบว่ารถคันนี้มาจอดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
มีแหล่งข่าวแจ้งว่าอดีตพระพรหมเมธี มีความคุ้นเคยกับญาติโยมแขวงคำม่วน สปป.ลาว จึงมีลูกศิษย์อยู่ฝั่งนั้นมากมาย หลังถูกออกหมายจับเป็นไปได้ที่จะหลบหนีมาอาศัยอยู่กับลูกศิษย์ที่ประเทศลาว สำหรับสีกาชื่อ จ. แหล่งข่าวเผยว่ายังคงถูกเค้นสอบอย่างหนักในเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ส่วนคนลาวที่มากับสีกา จ. ถูกปล่อยตัวกลับประเทศไปตั้งแต่คืนวันที่ 31 พ.ค.แล้ว
