นครพนม – โครงการแก้ปัญหาภัยแล้งท่าอุเทน ยกระดับความชุ่ย !! เดินท่อประปาในร่องระบายน้ำเสีย แถมลดขนาดท่อบางเฉียบ ชาวบ้านหวั่นไม่คงทน
โผล่ออกมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน ตามโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ อันเนื่องจากปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยในจังหวัดนครพนม
จากกรณีรัฐบาลอนุมัติงบประมาณเร่งด่วน จำนวน 200 ล้านบาท ให้แก่จังหวัดนครพนม แต่มีบางโครงการต้องใช้เวลาในการยื่นซองประกวดราคา ไม่ทันภายในเดือนกันยายนตามที่รัฐบาลกำหนด เพราะงบก่อสร้างปรับปรุงเกิน 500,000 บาท จึงถูกตัดงบไปเหลือประมาณ 140 ล้านบาทเศษ
ซึ่งงบเร่งด่วนนี้ถือเป็นโครงการสำคัญที่จังหวัดนครพนม ได้มอบหมายให้ทั้ง 12 อำเภอ นำไปดำเนินการร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด
ปรากฏว่ามีข้าราชการบางคน แปลความหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนได้ผ่อนคลายความเดือดร้อน มาแสวงหาผลประโยชน์ โดยอาศัยช่องว่างที่เป็นงบเร่งด่วน ในกรณีโครงการไม่เกิน 500,000 บาท ไม่ต้องยื่นซองประกวดราคา อำเภอนั้นๆสามารถเชิญผู้รับจ้างมาเซ็นชื่อเป็นคู่สัญญาได้เลย ข้าราชการบางคนจึงฉ้อราษฎร์บังหลวง เรียกรับเงินหักเปอร์เซ็นต์แต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 35 %
เช่นเดียวกับอำเภอท่าอุเทน ที่ได้รับงบประมาณแก้ไขปัญหาภัยแล้งจากรัฐบาล จำนวน 27 โครงการ จากที่เสนอไปทั้งสิ้น 52 โครงการ เช่น ก่อสร้างฝายน้ำล้น ขยายท่อเมนประปาภายในหมู่บ้าน ขุดลอกสะ-ห้วย ก่อสร้างระบบประปาบาดาล และปรับปรุงระบบประปา แต่มีเกือบ 20 โครงการ จะเป็นงานขุดลอกสระและห้วย
ต่อมา นายปียา ผารุธรรม เครือข่ายธรรมาภิบาล ภาคประชาชน ได้รับการร้องทุกข์จากราษฎรบ้านนาโสกใต้ หมู่ 3 ต.เวินพระบาท ว่า โครงการขยายท่อเมนประปาภายในหมู่บ้าน นอกจากไม่ดีกว่าเดิมแล้ว ยังส่อทุจริตอีกด้วย
และได้พบกับนายโกศล วงศ์อุระ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านนาโสกใต้ บอกว่าแท็งก์น้ำประปาอยู่ภายในบริเวณวัดศรีบุญเรือง มีป้ายโครงการระบุเป็นการขยายท่อเมนประปาฯ ขนาดท่อ 2 นิ้ว ยาง 2,656 เมตร ราคาค่าก่อสร้าง 441,500 บาท(สี่แสนสี่หมื่นหนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน) โดยมีนายสุวรรณ เอกพันธุ์ ผู้ดูแลการจ่ายน้ำประปา เปิดเผยว่าเดิมมีมอเตอร์ปั๊มน้ำ 1 ตัว ยังใช้การได้ดี เมื่อมีการปรับปรุงตามโครงการงบภัยแล้ง ก็นำปั๊มน้ำมาเพิ่มอีก 2 ตัว รวมของเก่าเป็น 3 ตัว แต่ตอนนี้ใช้งานเพียงตัวเดียวคือตัวเดิม ส่วนตัวใหม่นั้นรอให้ของเก่าชำรุดถึงจะเปิดใช้
ส่วนท่อเมนมีขนาด 2 นิ้วเท่าของเดิม ต่างกันที่ความหนาเท่านั้น คือตัวเก่ามีความหนา 13.5 ฝังลงดินประมาณ 1 เมตร ตัวใหม่ 8.5 ฝังลงดินประมาณ 10-20 ซม. ชาวบ้านหวั่นจะไม่ทนต่อการกดทับ นอกจากนี้ยังมีการสอดท่อประปาอยู่ในท่อระบายน้ำเสีย หากมีการรั่วซึมชาวบ้านก็ต้องใช้น้ำที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรกโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้น้ำก็ไหลค่อยกว่าเก่าอีกด้วย
