นครพนม – วันที่ 30 ธันวาคม 2562 ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562-2 มกราคม 2563 หรือ 7 วันอันตราย สรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุ ประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2562 ว่า เกิดอุบัติเหตุ 5 ครั้ง บาดเจ็บ 7 ราย (ชาย 5 หญิง 2) แยกเป็นอำเภอบ้านแพง 1 ครั้ง บาดเจ็บ 1 ราย อำเภอเมืองนครพนม 2 ครั้ง บาดเจ็บ 3 ราย และอำเภอธาตุพนม 2 ครั้ง บาดเจ็บ 3 ราย รถที่เกิดอุบัติเหตุทั้งหมดเป็น จยย. ไม่สวมหมวกนิรภัย และเมาแล้วขับ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้มีจำนวนผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีตาม 10 มาตรการ ประกอบด้วย 1.ความเร็วเกินกำหนด 2.ขับรถย้อนศร 3.ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 4.ไม่มีใบขับขี่ 5.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 6.แซงในที่คับขัน 7.เมาสุรา 8.ไม่สวมหมวกนิรภัย 9.จยย.ไม่ปลอดภัย และ 10.ใช้โทรศัพท์ฯขณะขับรถ 3 อันดับแรกคือ ขับขี่ยานพาหนะไม่มีใบขับขี่ 1,414 ราย สองไม่สวมหมวกนิรภัย 1,136 ราย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 610 ราย ส่วนข้อหายอดฮิตติดอันดับ 1 ในการเกิดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกปีคือเมาแล้วขับของจังหวัดนครพนมอยู่อันดับ 6 มีจำนวน 124 คน รวมจับกุมผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะดื่มแล้วขับ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม-29 ธันวาคม 2562 รวม 338 ราย
ซึ่ง นายอานนท์ เหลืองบริสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม แถลงผลการดำเนินการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา และได้มอบหมายนโยบายผ่าน VDO Conference เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดใช้เป็นแนวทางการดำเนินงาน คือ ให้ปรับแผนฯเน้นการดำเนินงานในพื้นที่ โดยในอำเภอที่มีระดับความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุสีแดงและสีส้ม มีคำสั่งให้เพิ่มความเข้มข้นในด่านชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) และอาสาสมัครต่างๆร่วมกันดำเนินงาน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เน้นผู้ขับขี่รถ จยย. การขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัย โดยให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังจุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง หรือการจอดรถบนไหล่ทางที่อาจก่อให้เกิดอันตราย รวมทั้งให้จุดตรวจ จุดบริการเฝ้าระวัง สอดส่อง ดูแล ผู้ขับขี่ยานพาหนะในเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อป้องกันการหลับในของผู้ขับขี่ และเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบ ควบคุม ดูแลรถตู้ส่วนบุคคล รถกระบะที่บรรทุกคนอยู่ท้ายรถในลักษณะไม่ปลอดภัย โดยการแนะนำตักเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัย และสังเกตอาการของผู้ขับขี่ หากพบว่ามีอาการอ่อนเพลีย แนะนำให้หยุดพักก่อนออกเดินทาง พร้อมให้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจตรา ดูแลความปลอดภัยทางน้ำบริเวณท่าเรือ โป๊ะเรือ และสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ เพื่อป้องกันอุบัติภัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการและนักท่องเที่ยว
บริเวณท่าเทียบเรือการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองนครพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.อ.สมเกียรติ สนใจ ผกก.ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองฯนครพนม(ตม.ฯ) มอบหมายให้ ร.ต.อ.ธนารัตน์ ประดับจันทร์ รองสารวัตร ตม.ฯ ร.ต.อ.(หญิง)ฐาณิสรา แก้วคำฟู ร.ต.อ.(หญิง)ดวงใจ แก้วขอนแก่น ร.ต.ต.ธนวรรธ์ สีทองวิสิฐภ์ และ ด.ต.ดำริ โฆสิต ผบ.หมู่ ตม.ฯนครพนม บูรณาการร่วมกับ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครพนม,ตำรวจน้ำ,ตชด.236 ,หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) ดำเนินการป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำที่อาจเกิดขึ้น และเกิดความปลอดภัยในการเดินเรือ มีการตรวจตรา โป๊ะเรือให้มีความมั่นคงแข็งแรง และเรือรับจ้างข้ามฟากระหว่างนครพนม-เมืองท่าแขก ประเทศลาว ให้ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยในการเดินเรือ พร้อมประชาสัมพันธ์แนะนำผู้ประกอบการเรือทุกประเภท ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก พร้อมให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามกฎของการเดินเรือที่ต้องสวมเสื้อนิรภัยทุกคน
ข่าวน่าสนใจ:
- ชวนชิม 'ศรีบุญเรือน' ร้านข้าวต้มต้นตำรับ สืบทอดสามรุ่น เสน่ห์ร้านข้าวต้มยามค่ำคืน ที่รวมอาหารจีน อาหารเหลา อาหารใต้ไว้ในร้านเดียว
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
- ผกร.ป่วนไม่เลิก!วางบึ้ม 5 (แตก 4, กู้ 1) ทางไปสนามบิน
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
ขณะที่บริเวณสถานีเดินรถโดยสารฯ (บขส.นครพนม) ถนนเฟื่องนคร มีผู้ใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาวและเวียดนาม เดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เข้าไปทำงานรับจ้างใน กทม. เช่น ท้าวถาวอน แก้วมะนี อายุ 31 ปี ชาวบ้านสองห้อง เมืองหินบูน แขวงคำม่วน สปป.ลาว ทำงานเป็นลูกจ้างขายอาหารตามสั่ง ย่านคลองตัน ซื้อสิ่งของส่วนมากจะเป็นขนม เสื้อผ้า กลับมาฝากญาติพี่น้อง หรือนางคำ อายุ 27 ปี ทำงานเป็นพนักงานเสริฟร้านอาหารแถวพัทยา จังหวัดชลบุรี นายจ้างให้หยุดงาน 5 วัน เพื่อกลับมาฉลองปีใหม่ 2563 กับเครือญาติ ก่อนจะกลับไปทำงานในวันที่ 2 มกราคม 2563 ทำให้รอบๆสถานีขนส่งมีข้าวของพี่น้องชาวลาวและเวียดนามกองพะเนินเรียงรายมากกว่าปกติ ด้านนายธวัชชัย วระมณี พขร.รถโดยสารระหว่างประเทศ นครพนม-คำม่วน เปิดเผยว่าช่วงเทศกาลจะมีผู้คนกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก คิวตั๋วเต็มทุกที่นั่ง ต่างจากวันทั่วๆไปที่มีผู้โดยสารไม่มากนัก แม้แต่ท่าเทียบเรือชาวลาวที่เดินทางกลับเยี่ยมญาติช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็ทะลักด่านตรวจคนเข้าเมือง ต้องเข้าคิวตรวจเอกสารเป็นแถวยาวเหยียด ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แนะนำการยื่นเอกสารต่างๆ เพื่อสะดวกในการตรวจสอบ และให้เก็บเอกสารที่จะต้องเก็บไว้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตอนกลับเข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นใน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: