นครพนม – วันที่ 7 ก.ค.61 เวลา 16.30 น. บริเวณแลนด์มาร์คพญาศรีสัตตนาคราช ช่วงระหว่างถนนสุนทรวิจิตรกับถนนนิตโย เขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นวันแรกในงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ประจำปี 2561(7-13 ก.ค.รวม 7 วัน 7 คืน) เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดี และเป็นความเชื่อของชาวไทยและลาว ที่อาศัยอยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำโขงเกี่ยวกับพญานาคมาอย่างยาวนาน ว่า มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ และเชื่อว่าพญานาคมักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างงดงาม นอกจากนี้ยังเป็นการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น
พิธีเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่เป็นกิจกรรมทางศาสนา ด้วยการบวงสรวงพระธาตุนคร(พระธาตุประจำผู้เกิดวันเสาร์) วัดมหาธาตุ และห่มผ้าพระธาตุ สวดมนต์เสริมบารมี เป็นที่น่าสังเกตว่าตลอดทั้งวันจะมีฝนตกลงมา ทำให้เป็นปัญหาแก่เหล่านางรำกว่าพันคน ที่เดินทางมาเตรียมตัวร่วมกันปิดเมืองรำบวงสรวง ขณะที่นักท่องเที่ยวก็ไม่ยอมถอย ต่างปักหลักชมกลางแสดงท่ามกลางสายฝน
เวลา 17.00 น. ฝนยังคงปรอยปรายเป็นระยะๆ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธี มีนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.ฯ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการพ่อค้า ประชาชน ร่วมกันตั้งขบวนแห่เครื่องบูชาพญาศรีสัตตนาคราชจากถนนนิตโย แล้วนำไปวางยังแท่นบูชา ขณะนั้นฝนยังตกตลอดเวลา แต่หลังจากประธานในพิธีกล่าวคำบูชาแก่องค์พญาศรีสัตตนาคราชได้ไม่นาน ฝนก็หยุดตก ท้องฟ้าเปิดโล่งแจ่มใสเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง จากนั้นคณะนางรำจากเขตอำเภอเมืองนครพนม นักเรียนโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย และโรงเรียนนครพนมวิทยาคม จึงรำบูชาบวงสรวง จำนวน 4 ชุด พร้อมกันนี้ รมว.แรงงาน ได้เดินชมและชิมอาหารโรงทานที่มีผู้ใจบุญ นำอาหารหลากหลายชนิดมาบริการฟรีแก่ผู้ร่วมงานและนักท่องเที่ยวกว่า 100 บูธ และเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน(โอทอป) ราคาประหยัด และตลาดนัดผู้สูงอายุ ที่ทางจังหวัดเน้นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น
ในงานบวงสรวงมีผู้รู้เผยว่า พญาศรีสัตตนาคราชเป็นองค์นาคาธิบดี ผู้เป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวงในแม่น้ำโขง มี 7 เศียร ทรงฤทธิ์ทรงอำนาจ เป็นตระกูลพญานาคที่มีความใกล้ชิดกับพระพุทธองค์มาแต่สมัยพุทธกาล อีกทั้งยังปกป้องคุ้มครองคนดีมีศีลธรรม และศาสนสถานอย่างพระธาตุพนมเป็นต้น ด้วยเหตุนี้เวลาจะมีพิธีบวงสรวง ต้องมีฝนตกลงมาเสียก่อน หลังจากอ่านคำบูชาแล้วฝนจะหยุดอย่างที่ทุกคนเห็นเป็นอัศจรรย์ เช่นเดียวกับเมื่อวันที่ 7 ก.ค.2560 ก่อนจะถึงพิธีบวงสรวงก็เกิดฝนตกกระหน่ำ แต่พอทำพิธีเสร็จฝนจะหยุดตกทันที นอกจากนี้ตลอดทั้งปีจะมีผู้ประสบความสำเร็จจำนวนมาก นำหมอลำศิลปะพื้นบ้านมาแสดงแก้บนแก่พญาศรีสัตตนาคราชมิขาดสาย
