นครพนม – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมนักข่าวจังหวัดนครพนม โดยนายทวี อภิสกุลชาติ นายกสมาคมฯ ได้รับเชิญจาก นายเฉลิมชัย รุจิวรารัตน์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานนครพนม ร่วมแถลงข่าวบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติ อุดรธานี มีนายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เป็นประธานพิธีเปิดตัวกิจกรรม”เที่ยวตัวปลิว..ชิลอีสาน” ของ ททท.ภาคอีสาน โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรและภาคเครือข่ายต่างๆ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด ภายใต้แนวคิด..เที่ยวอีสาน ทำเรื่องยากให้ง่าย สะดวก สบาย และประทับใจกับนักท่องเที่ยว(นทท.).. ”โดย นทท.สามารถแสกน QR Code เพื่อรับข้อมูลเส้นทางท่องเที่ยวผ่านโทรศัพท์มือถือ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับที่พัก ร้านอาหาร บริษัทรถเช่า และบริษัทไปรษณีย์ส่งของ จากป้ายเจแฟก(J-Flag) ในบริเวณสนามบินนานาชาติทั้ง 8 แห่ง ในภาคอีสาน ซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวครอบคลุมพื้นที่ 20 จังหวัดอีสาน อาทิ อุบลฯ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ เลย สกลนคร อุดรฯ และนครพนม ผ่านป้ายเด้ง(Wobbler) ซึ่งติดตั้งตามจุดให้บริการของพันธมิตรต่างๆ อันเป็นการบริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว(One Stop Service) สร้างความสะดวกสบายแก่ นทท.ต่อไปอย่างยั่งยืน” นายสมชายฯ ผอ.ททท.ภาคอีสาน กล่าว
นอกจากนี้กิจกรรมแคมเปญ”เที่ยวตัวปลิว..ชิลอีสาน” ครั้งนี้ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภาคอีสาน นับเป็นก้าวใหม่ต่อไปในโอกาสครบรอบ 60 ปี ททท. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบูรณาการการทำงาน ททท.ภาคอีสานทุกสำนักงานกับพันธมิตรภาคีเครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกให้แก่ นทท.ในการเดินทางท่องเที่ยวภายในภาคอีสาน เพื่อทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในภาคอีสานเป็นเรื่องง่ายๆผ่าน Online และโทรศัพท์มือถือ ซึ่ง นทท.สามารถจัดการเดินทางด้วยตนเองได้ เพียงแค่แสกน QR Code จากป้ายเจแฟกในบริเวณสนามบินและป้ายเด้งในจุดให้บริการของพันธมิตรต่างๆ เมื่อตนเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางที่จะท่องเที่ยว เพื่อรับข้อมูลแนะนำตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจ เช่น บริษัทรถเช่า บริษัท Kerry Express บริการส่งของในแต่ละพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ ททท.ยังได้มีโครงการที่จะขยายจุดติดตั้ง QR Code เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ นทท.เพิ่มมากขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
ผอ.ททท.ภาคอีสาน กล่าวต่อว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งช่องทางสนับสนุนส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวชาวไทยไปสู่พื้นที่เมืองรองท่องเที่ยวชนบท สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของ ททท. รวมทั้งสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ของภาคอีสานในมิติใหม่ โดยเจาะลึกเรื่องสไตล์และความรู้สึกการเที่ยวแบบเท่ๆ เชื่อมโยงกับวิถีการกินอาหารถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ภายใต้แนวคิด”More Gastronomy Cool อีหลี” ที่ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาชาวบ้านกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่สอดรับแคมเปญ Cool Isan ของ ททท.ภาคอีสาน พร้อมชูจุดขายท่องเที่ยวอีสานเป็น Theme ในแต่ละเดือนเพื่อส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวผนวกกับ Event Marketing ในเชิงการตลาดและประชาสัมพันธ์กระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการเดินทางในภาคอีสานมุมมองใหม่ๆ ที่ผู้คนมองข้าม ทำให้เที่ยวอีสานรู้สึกเที่ยวได้ง่าย สะดวก สบาย และประทับใจ
Theme กิจกรรมในแต่ละเดือนตลอดปี 2563 ในภาคอีสาน ประกอบด้วย 1.มกราคม#เที่ยวอีสานโฉมใหม่:Modern Isan 2.กุมภาพันธ์ # เที่ยวอีสานสวยทุกที่เท่ทุกสไตล์ 3.มีนาคม # เที่ยวอีสาน Cool อีหลี 4.เมษายน # เที่ยวอีสานแบบ Cool คูล 5.พฤษภาคม # อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน 6.มิถุนายน # อีสานเขียวเที่ยวทะเลหมอกหน้าฝน 7.กรกฎาคม # อีสานเขียวเที่ยวค้นหาความสุข 8.สิงหาคม # อีสานเขียวเที่ยวเส้นทางสายไหม 9.กันยายน # อีสานเขียวประชุมเที่ยวเรื่องเดียวกัน 10.ตุลาคม # เที่ยวอีสานปลายฝนต้นหนาว 11.พฤศจิกายน # เที่ยวอีสานทะเลหมอกหน้าหนาว และ 12.ธันวาคม # เที่ยวอีสานทะเลดอกไม้หน้าหนาว
และ ททท.ภาคอีสาน ยังจับมือกันพันธมิตรภาคีเครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยวจัดทัวร์เส้นทางนำร่อง และกิจกรรมกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในหลายโครงการ หลายกิจกรรม พร้อมร่วม DMC-Destination Management Company และ ททท.สำนักงานในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน นำเสนอโปรแกรมทัวร์และให้คำปรึกษาอำนวยความสะดวกจัดทัวร์เที่ยวอีสานเพิ่มคุณค่าและมูลค่าน่าสนใจกับการท่องเที่ยวอีสานจังหวัดติดชายแดน เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ยกตัวอย่างเช่น เที่ยวจังหวัดเลยเชื่อมโยงแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว เที่ยวอุดรฯ+หนองคายเชื่อมโยงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เที่ยวนครพนมเชื่อโยงท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาว เที่ยวสกลนคร+มุกดาหารเชื่อมโยงแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว และเวียดนาม เที่ยวอุบลฯเชื่อมโยงแขวงจำปาศักดิ์ ลาวใต้+กัมพูชา เที่ยวสุรินทร์+ศรีสะเกษ+บุรีรัมย์เชื่อมโยงเสียมเรียบ กัมพูชา เป็นต้น
นายสมชายฯผอ.ททท.ภาคอีสาน กล่าวปิดท้ายว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานเพิ่มมากขึ้น และกระจายตัว นทท.สู่จังหวัดต่างๆในภาคอีสานได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2563 ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: